สำหรับ #TrueOnline ในวันนี้ WiFi7 ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาด และแน่นอนว่า ความเร็วแรง ก็เป็นเรื่องสำคัญ และแน่นอนว่ามีการออกแพ็กเกจ 2Gbps/1Gbps ออกมาให้คนที่ชอบใช้ของแรงๆ ได้ลิ้มรสความใหม่ สด เร็วก่อนใคร ด้วยราคาตลาด 1,399 บาท สำหรับลูกค้าใหม่ หรือ ลูกค้าทรู ดีเทคเดิม ก็สมัครได้ในราคาที่ลดแล้ว 200 บาท เหลือ 1,199 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาที่ดีน่าสนใจมากๆ
เรื่องโปรโมชั่น แน่นอนว่าแถม คอนเทนต์อย่าง ViU iQIYI TrueVision Now พร้อมซิม 20 GB และกล่อง TrueID TV ติดมาด้วย พร้อม Router WiFi7 ฟรี
ซึ่ง WiFi 7 แบบฉบับ Home Use นั้น ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี มี coverage area ที่น่าจะ cover บ้านระดับทาวเฮาส์ได้สบายๆ หาจุดตั้งที่กึ่งกลางหน่อย แต่ทว่าบ้านหลังเดี่ยวนี่ต้องดูจุดดีๆ แม้ว่าจะเป็น WiFi7 ก็ตามอาจจะมีสัญญาณเบาบางในบางจุดแน่นอน แม้ว่าจะมีเทคโนโลยี MLO (Multi-Link Operation) มาช่วย แต่ผมเชื่อว่า ยังมีข้อจำกัดในบางอย่างที่ เมื่อถึงเวลาสมควรข้อจำกัดเหล่านี้จะมีเฉพาะในช่วงแรกๆ และค่อยๆ จางหายไป
1. Mobile Device High End ที่คุณต้องมี ไม่ว่จะเป็น iPhone 16 / OPPO Find X7/Vivo X100 / Xiaomi 14 ซีรีส์ และอื่นๆ ซึ่งยังคงเป็นข้อจำกัดเรื่องความใหม่ แต่ในอนาคตก็จะเหมือน WiFi 6 ในปัจจุบันที่มี device รองรับมากมาย
2. Notebook Device อันนี้ในงานไม่ได้มีบอกไว้ แต่สำหรับผมเชื่อว่า ถึงมีก็จะมีบางรุ่นซึ่งเป็นรุ่น Top ที่ไม่ว่าจะเป็นสาย business หรือ gamer จะต้องมีราคาน่าจะราวๆ 70K ขึ้นไป
1-2 อาจจะรวบได้ว่าเป็น Device ที่รองรับในปัจจุบัน
3. Use case ที่ ใช้จริง ซึ่ง WiFi 7 มี Ping ที่ต่ำ มีความเสถียรมากกว่า WiFi 6 แต่ทว่า ก็ยังไม่สามารถข้ามผ่านข้อจำกัดอย่างเรื่องของสภาวะแวดล้อม ตัวแปรเดิมๆ ที่ยังไงซะ การส่งผ่านข้อมูลทางอากาศ ก็ย่อมไม่ stable ไปกว่าสาย LAN อยู่ดี ดังนั้น การใช้งานจริง หรือ Use case ที่เกิดขึ้นกับ ชาวบ้านที่ใช้งานอย่างเรา ก็คือ ได้เล่นเกมที่สปีดสูงขึ้น แต่ท่าเกมออนไลน์เอาจริงๆ แล้ว ยิ่งบนมือถือ ก็อาจจะไม่ได้ต้องการความแรงมากนัก ในปัจจุบันเพียงพออยู่แล้ว เพียงแต่ WiFi 7 มาเสริมได้ตรงความเสถียรที่อาจจะมากขึ้นกว่า WiFi6 เดิมที่มีการแยกช่องสัญญาณระหว่าง 2.4Ghz และ 5GHz อย่างชัดเจน
ซึ่ง Use case ที่คิดเลยก็คือ บน Mobile จะมีประโยชน์เรื่อง พวกการออนไลน์ Live ต่างๆ การอัปโหลดข้อมูล ถ่ายโอนข้อมูล ทั้งภายในและไปจนถึงส่งผ่านไปยังอินเตอร์เน็ตได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนใน WiFi7 ซึ่งจะมีความเร็วที่มากกว่า และระยะทางที่ใช้งานได้มากกว่า แต่ทว่าข้อจำกัดคือ Device ในมือต้องรองรับ WiFi7 แค่นั้นเอง
อีก Use case นึงคือบรรดา Streamer ทั้งหลาย ที่ไม่จำเป็นต้องไปนั่งโต๊ะที่มีสาย LAN จะไปตรงไหนก็ได้ของตัวบ้าน แต่ก็นั่นแหล่ะ Notebook ที่รองรับ ราคาเท่าไหร่ล่ะ? แต่แน่นอนว่าสะดวกมากกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะทำงานเรื่อง streaming หรืออื่นๆ ได้ดีกว่า
แน่นอนว่า use case เกี่ยวกับการทำงาน ผมว่าอาจจะไม่ได้มีมากนัก เพราะบรรดานักธุรกิจหรือคนทำงานทั่วไปแค่ WiFi6 ก็คงตอบโจทย์ ในเคสนี้ที่คิดออก อาจจะเป็นหลังบ้านอย่างนักตัดต่อที่ต้องอัปโหลดดาวโหลด มากๆ อันนี้น่าจะได้ประโยชน์ อาจจะต้องมีการเคลื่อนย้ายที่ทำงานบ่อยๆ อาจจะเป็นพวก Home Office (ส่วนใหญ่บรรดา streamer จะมีทีมทำเรีื่องเหล่านี้อยู่)
ซึ่ง use case ที่ใช้งานจริงๆ ผมว่าก็ยังมีน้อยอยู่ดี ซึ่งที่ได้ประโยชน์อีกอันนึงที่คิดได้ก็คือกึ่งๆ SMB ทั้งหลาย ที่จะต้องมีการใช้งานบางอย่างภายในองค์กรที่มีการใช้ network ที่ต้องการความสะดวก เร็ว แรง และมี device ที่รองรับในบริษัทอยู่จำนวนนึง โดยเฉพาะบรรดาผู้บริหาร
และอีกจุดนึงก็คือ ใครที่อยากใช้แพ็กเกจนี้ ณ ปัจจุบัน หากมีอุปกรณ์ที่รองรับ WiFi 6 เดิมอยู่ มีพื้นที่ที่มีการต่อพ่วงสัญญาณออกไปไม่ว่าจะเป็น AP ที่เป็น repeater หรือจะเป็น Mesh WiFi ที่ยังรองรับ WiFi 6 แน่นอนว่า หากพื้นที่กว้างมาก ตัว Router WiFi7 ที่ TrueOnline แถมให้ฟรี ณ ปัจจุบัน อาจจะยังไม่ครอบคลุมพื้่นที่ หากเปลี่ยนแพ็กเกจ ณ อตนนี้ (ธันวาคม 2024) แน่นอนว่าอาจจะเกิดปัญหากับอุปกรณ์การใช้งานเดิม อาทิพวก กล้องวงจรปิด IoT ต่างๆ เดิม ที่มีสิทธิ์อยู่นอกพื้นที่ ดังนั้น ก็เป็นจุดนึงที่ต้องระวัง
แต่ทว่าจากที่สอบถามทาง ผบ. ทรูออนไลน์ พี่ฮอน สกลพร ก็ได้คำตอบว่า จะมีเทคโนโลยี Mesh WiFi 7 ที่จะช่วยตอบโจทย์ตรงนี้ ได้ในอนาคตอันใกล้ (เห็นว่า มกราคม 2025) ต้องรอติดตามกัน ซึ่งผมว่า ณ ตอนนั้น น่าจะเป็นช่วงที่ดีในการเปลี่ยนแพ็กเกจที่จะไปใช้ 2Gbps บน WiFi7 กันแบบเต็มๆ นะ
ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจก็มีเรื่องความปลอดภัย ที่มีเรื่อง CyberSafe ที่ช่วยปกป้องลูกค้าให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบัน ซึ่งอันนี้เป็นฟีเจอร์เสริมที่มีให้บริการฟรี สำหรับลูกค้าทรูและดีแทค อยู่แล้ว ซึ่งป้องกันเรื่องการหลอกลวงได้ดีเลยล่ะ อันนี้ผมว่าน่าสนใจ ซึ่งเป็นส่วนนึงที่มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานกลาง และทางทรูก็ขานรับ และเปิดบริการให้ลูกค้าใช้งานได้แล้ว ก็ถือว่าเป็นการช่วยลูกค้าอย่างเราได้ในทางนึงด้วย
ส่วนเรื่องสปีดเทส ส่วนตัวผมว่าความเร็วสูงสุดที่ได้มาก็คือ 2.xGbps/9xxMbps ซึ่งใช้งานจริง ก็ดรอปลงไปตามระยะทาง แต่ใช้งานจริงผมว่าโอเคละล่ะ
สุดท้าย ใครที่ใช้งานทรูอยู่ตอนนี้ก็สามารถอัปเกรดแพ็กเกจได้นะ ลูกค้าอยู่แล้วก็ลดไป 200 บาท และติดสัญญากันไป 24 เดือนนะครับ อยากลองของใหม่ ไปเปลี่ยนได้เลย
ปล. ศึกษาข้อมูลและข้อสังเกตต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อนเน้อ
