TB Review: ViewSonic ViewPad10 Dual-OS สองสายพันธุ์
 | ช่วงนี้ Tablet เต็มไม้เต็มมือ  เลยขอจับ เอาอีกทางเลือกหนึ่งของคนใช้ Tablet มารีวิวให้ชมกันหน่อยดีกว่า กับ ViewPad10 ที่มาพร้อมกับ Android 2.2 และ Windows 7 Home Premium เป็น Tablet ที่หลายคนฝันหา วันนี้มีขายในบ้านเราแล้ว ลองมาชมรีวิวกันTB Review: แรกจับ ประทับใจ ViewSonic ViewPad 10 ขอขอบคุณ SiS Distribution Thailand PCL สำหรับเครื่องทดสอบ |
ViewSonic ที่โด่งดังในเรื่องของจอมอนิเตอร์ อารมณ์ประมาณว่าเน้นทางด้าน PC มาโดยตลอด จนวันนึงออก Tablet มาโดยที่ข่าวเมืองนอกน่ะพอมีอยู่ แต่ในบ้านเรานี่สิ ไม่มีกระแสสักนิดที่จะนำเข้ามา แน่นอนว่ามากับรายใหญ่อย่าง SiS Distribution นั่นเอง และที่สำคัญ ViewPad 10 มาพร้อมกับ 2 OS สามารถเลือกใช้งานได้สบาย แต่ว่าจะมีจุดคอมเม้นอะไรกันบ้าง มาชมกันครับ
ก่อนอื่นมาดูสเปคกันก่อน อันนี้มาจากเว็บ ViewSonic ล้วนๆ
DISPLAY | ||
| Type | 10.1" LCD Capacitive multi-touch screen with LED backlight | |
| Resolution | 1024x600 | |
| Brightness | 220 cd/m2 (NITS) | |
| Contrast Ratio | 700:01:00 | |
| NETWORKING | ||
| Wireless Connectivity | Wi-Fi (802.11 b/g/n), Bluetooth 2.1 + EDR | |
| DIMENSIONS (WxHxD) | ||
| Physical | 10.8" x 6.7" x 0.57" (WxHxD) (275mm x 170mm x 16.5mm) | |
| Packaging | 12.9" x 8.8" x 0.28" (WxHxD) (326mm x 224mm x 72mm) | |
| WEIGHT | ||
| Net | 1.93 lb. (0.875 kg) | |
| Gross | 3.75 lb. (1.7 kg) | |
| PACKAGE CONTENTS | ||
| ViewPad 10, power cord, Quick Start Guide, User Guide, CD System Recovery for Windows Driver, CD System Recovery for Android | ||
| WARRANTY | ||
| 1-year limited warranty on parts and labor | ||
| CAMERA | ||
| 1.3 megapixel camera (front) | ||
| CORE | ||
| CPU Processor Type | Intel Pine Trail N455 1.66GHz | |
| Chipset | Mobile NM10 Express | |
| MEMORY | ||
| VPAD10_AHUS_05: 2GB DDR3, 16GB SSD VPAD10_APUS_05: 2GB DDR3, 32GB SSD | ||
| INPUT/OUTPUT | ||
| 3.5mm audio jack for stereo headset, 2 USB 2.0 ports, mini VGA port, Micro SD card slot | ||
| SENSOR | ||
| Types | G-Sensor | |
| BATTERY | ||
| Type | Li-ion, 3200mah | |
| Life | 4 hrs (approx) | |
| Operating System | ||
| Dual OS | VPAD10_AHUS_05: Windows 7 Home Premium (2GB DDR3, 16GB SSD) with Android 1.6* or VPAD10_APUS_05: Windows 7 Professional (2GB DDR3, 32GB SSD) with Android 1.6* *Must access Flash through Windows OS. Upgradable to Android 2.2 |
มาชมตัวเครื่องกันดีกว่า
เนื่องจากทาง SIS Distribution ให้กล่องมาด้วย แต่ในกล่องมีเพียงสายชาร์จ และตัวเครื่อง ก็คงมาดูเฉพาะตัวเครื่องกันอย่างเดียวนะครับ
ด้วยขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ในการพกพาทำให้ ลำบากใจเสียจริง ยิ่งเจ้า ViewPad10 ด้วยแล้ว น้ำหนักที่เกือบหนึ่งกิโล ขาดไปร้อยกว่ากรัม ก็เรียกว่าหนักใช้ได้ อีกทั้งจะมีอุปกรณ์เสริมต่างๆ อีก รับรองว่าได้หนึ่งกิโลพอดี เห็นน้ำหนักแล้ว คิดหนักเลย
ด้านหน้ามีกล้องให้ 1.3 ล้านพิกเซล คุณภาพไม่ได้ถ่ายมาให้ชม เอาเป็นว่าพอใช้ได้ก็แล้วกันครับ
ส่วนด้านอีกด้านนึง มีสัญลักษณ์ และไฟกระพริบแจ้งเตือนการเชื่อมต่อ แบต และพาวเวอร์
ด้านข้างมีปุ่มกด 3 ปุ่ม เท่าที่มองหารอบๆ เครื่องแล้ว ไม่พบปุ่ม เร่ง-ลดเสียง และเจ้าปุ่มกด 3 ปุ่มนี่ก็เรียกว่า เจ้าปัญหาเล็กๆ นะ
แน่นอนว่าตัว CPU ใช้ INTEL Atom ทำให้มีความร้อน และก็ต้องมีช่องระบายความร้อนกันหน่อย
ภาพด้านข้าง ช่องระบายความร้อนอยู่ตรงด้านบน เวลาใช้งานในแนวตั้ง ก็ไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แต่แอบมีเสียงระบายอาการนิดนึงนะ
อีกด้านนึงที่มีช่องระบายอาการเช่นเดียวกัน
แต่ที่ถูกใจก็คือช่อง reset ซึ่งไว้ช่วยอาการแฮงค์ต่างๆ ที่เราไม่สามารถปิดเครื่องได้ ซึ่งบน Tablet ทั่วไป มักจะไม่ค่อยให้ช่อง reset มาสักเท่าไหร่ เวลาฉุกเฉินมันช่วยได้จริงๆ นะ
ส่วน ด้านบนหัว โชว์ของเพียบ รูชาร์จไฟ ที่ใส่ microSD สูงสุด 32GB ส่วนถันมาตอนแรกนึกว่า HDMI แบบใหม่ แต่จริงๆ แล้วเป็น VGA mini Out นะครับ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ใช้กะว่าจะลองแต่ไม่มีสายมาให้ทดสอบแฮะ ส่วน usb port ที่มี 2 ช่อง ก็เอาไว้ต่อเมาส์กับคีย์บอร์ดนั่นเอง ถัดเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และไมค์
ด้านหลัง วัสดุที่ใช้เป็นอลูมิเนียมที่คาดว่าดีไซน์มาให้ระบายความร้อนได้ดี
นี่ก็คงเป็นจุดระบายความร้อนด้านหลัง CPU แบบนี้ก็ต้องเน้นดีไซน์เรื่องระบบความร้อนให้ดีสักหน่อย
มาพร้อมกับ License ของ Windows 7 honme อย่างถูกต้องนะครับ ส่วน Android for intel ก็มาแค่ 2.2
ลำโพงวางตำแหน่ง ทั้งสองด้าน ซึ่งแน่นอนว่าเหมาะกับการใช้งานในแนวนอน เพื่อให้ระดับเสียง ตรงกับระนาบเดียวกับหู จะได้ฟังถนัดๆ หน่อย
ที่หลังตัวเครื่อง จะมีฐานเป็นพลาสติกกลมติดอยู่รอบ ดังนั้นถ้าเราจะวางกับพื้น ก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีฐานพลาสติกรองไว้เรียบร้อยแล้ว
เปิดปุ่ม Power เพื่อเริ่มใช้งาน ViewPad 10
สามารถเลือก OS ที่จะใช้งานได้ จะเป็น Windows หรือ Andorid โดยใช้ปุ่ม home เป็นตัวเลือก ส่วนปุ่ม Enter/Menu คือกดเพื่อเลือก
เรา มาดูเรื่อง Windows 7 กันหน่อย เครื่องที่ได้มาลง Windows 7 เอาไว้เรียบร้อย พร้อมใช้งาน จริงๆ ในแพ็คขายจะมี CD สำหรับ Recovery ทั้ง Windows และ Android มาให้ด้วย
เรื่อง Windows 7 ติดปัญหาอยู่นิดเดียวคือ พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนตัวเครื่องมันน้อยไปหน่อย หากต้องการใช้งานแบบเต็มๆ ก็ต้องหา HDD USB หรือ microSD เสริม และลงโปรแกรมใน Drive เสริมไป แต่ทว่าเวลาใช้งานก็ต้องเสียบ HDD USB Drive เอาไว้ตลอด
แต่ถ้าต้องการใช้งานไม่เยอะ ซึ่งผมก็ไม่แน่นำ ลงโปรแกรมเยอะๆ บน ViewPad10 เอาที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ ดีกว่า
สามารถเชื่อมต่อใช้งานได้จริงกับอุปกรณ์ USB แต่ทว่าบน Windows นะครับ
ตัวเครื่องหนัก และขนาดใหญ่กว่าเพื่อนๆ เค้า
มาดูวีดีโอรีวิวกันหน่อย
แก้นิดนึงตรง port hdmi ครับ ในวีดีโอนี่ ผมจัดเต็มเลย มั่นใจมาก แต่จริงๆ คือ mini VGA นะครับ
สรุปกันสักหน่อย
เจ้า ViewPad 10 นี่ ไม่เหมาะจะนำมาใช้งานแบบโมบายล์อย่างแรง โดยปกติทุกครั้งที่รีวิว Tablet ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้วผมจะบอกว่าไม่เหมาะกับการพกพา แต่เจ้านี่อย่างแรงครับ ไม่ถึงกับพกไม่ได้ แต่ก็ต้องแลกด้วยน้ำหนักที่มากขึ้น และต้องมีอุปกรณ์เสริม ถึงจะใช้งานได้สมบูรณ์แบบ ความร้อน จะร้อนกว่าปกติของ Tablet ทั่วไป เพราะใช้ CPU จาก Intel ที่ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้ออกแบบมาให้เป็น Tablet โดยตรง ถึงมีการดีไซน์ให้ระบายความร้อนได้ดี แต่ทว่าก็ยังรู้สึกร้อนกว่าการใช้งานเครื่องรุ่นอื่นๆ ซึ่งส่วนตัวแนะนำว่าใช้งานอยู่ที่บ้านคงจะดีกว่า และเสียดายที่ไม่มี HDMI Out แต่ยังมี mini VGA เข้าไป ยังพอไหว ตัว USB ให้มา 2 port เหมาะกับการทำงานบน Windows มาก และสามารถเชื่อมต่อกับ USB Hub ได้ ทำให้เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นได้มากขึั้น รวมถึงชาร์จไฟให้บรรดาน้องๆ Android phone หรือ iPhone ได้อีกต่างหาก ใช้เวลาฉุกเฉินดีเลยทีเดียว
นอกจากเรื่อง hardware แล้ว software ที่ให้มาก็ 2 OS เรื่องของ Android คงจะคุ้นกันดีกว่า 2.2 แน่นอนว่ายังอัพเกรดไม่ได้ หา ROM นอกก็ลำบากหน่อย ผมไม่ได้จับหน้าจอมาให้ดูเพราะ 2.2 บน ViewPad10 อาจจะดูล้าหลังไปสักนิดในช่วงนี้ และประกอบกับไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรใหม่ๆ แอพก็สามารถโหลดผ่าน Android Market ได้ด้วย แต่ผมชอบใช้ Windows 7 นะ อาจจะด้วยความคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว และเราสามารถถ่ายโอนไฟล์ระหว่างกันสองระบบได้ด้วยผ่านเจ้า micro SD นั่นล่ะ เรื่องปุ่มกดที่ มีเพียง 3 ปุ่ม เท่าที่ดูน่าจะออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ Windows 7 เสียมากกว่า บน Windows 7 มี คีย์บอร์ดภาษาไทย พร้อมใช้งาน ส่วนบน Android ยังต้องปรับอีกชุดใหญ่ ทั้งลิงค์ภาษาไทย ตัวอักษรไม่เกาะอยู่บนบรรทัด แต่โดยรวมๆ แล้วผมก็พกไปใช้งานเหมือนกันนะ แต่อาจจะไม่ใช้เป็นตัวหลัก สนนราคาหมื่นต้นๆ ก็ลองชั่งใจดูครับ โดยรวมน่าใช้งาน ราคาไม่แพงมาก และเป็นทางเลือกสำหรับคนอยากใช้ Android และ Windows Phone 7 บนเครื่องเดียวครับผม
ขอขอบคุณ SiS Distribution Thailand PCL สำหรับเครื่องทดสอบ
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น