Impact-Site-Verification: 71731b28-6515-46b4-a1fe-c3af7dfa427f มาใช้งาน เน็ทบ้านไร้สาย AIS airnet กันเถอะ - Happy Tech Blog

Header Ads

Hightlight

มาใช้งาน เน็ทบ้านไร้สาย AIS airnet กันเถอะ



วันนี้ได้รับหน้าเสื่อมาจัดเรื่องอินเตอร์เน็ทกันบ้าง กับการใช้งาน Hispeed Internet ที่ทุกวันนี้เร็วเหลือเกิน แต่ก็ยังได้ยินเสียงบ่นว่าช้า ได้อีก สำหรับคนที่ชอบความเร็วและแรง และหน้าเสื่อของผมวันนี้ที่รับมาก็คือ AIS airnet การบริการ Hispeed Internet แบบไร้สาย

......

เชื่อว่าวันนี้ สำหรับใครที่อยู่ใกล้ตัวเมือง หรือในตัวจังหวัดต่างๆ รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล ต้องเคยสัมผัสกับ Hispeed Internet กันมาบ้างแล้ว จากเมื่อหลายปีก่อนที่ผมเคยเริ่มใช้งานตั้งแต่ดาวโหลด 256Kbps หรือไม่ก็ 512Kbps ในช่วงแรกถือว่าเร็วมาก แต่ในปัจจุบัน ความเร็วกระโดดขึ้นไปถึง 100 Mbps สำหรับผู้ให้บริการบางราย และบางพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบันเชื่อว่าเฉลี่ย ใช้ไม่เกิน 10Mbps ซึ่งมีหลายผู้ให้บริการให้เราเลือก แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ต้องลากสายโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านเสมอ แม้ว่าจะต้องการเบอร์หรือไม่ก็ตาม ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ให้บริการเรียกว่ารายใหม่ล่าสุดเลยก็ว่าได้ข้ามการให้บริการแบบมีสาย กลายเป็นไร้สาย หรือที่ผมเรียกว่า Wireless Hispeed Internet ซึ่งได้ความเร็วเท่ากับผู้ให้บริการรายอื่นๆ ณ วันนี้คือ AIS ที่เรียกบริการนี้ว่า airnet

มารู้จัก airnet กันหน่อย

airnet เป็นบริการอินเตอร์เน็ทความเร็วสูงแบบไร้สาย ซึ่งใช้ย่ายความถี่ 5 GHz มีกำลังส่งไม่มากนัก ไม่เกิน 1 Watt และทาง AIS เรียกบริการนี้ว่า Super-Wi-Fi หรือแบรนด์ที่เรารู้จักกันว่า airnet นั่นเองโดยเทคโนโลยีนี้ไร้สายจริงๆ โดยผ่าน Wi-Fi นอกจากความสะดวกในเรื่องไร้สายแล้ว จุดเด่นมาไล่กันเป็นข้อเลย

- เรื่องแรกความเร็วในการอัพโหลด จะเท่ากับความเร็วในการดาวโหลด ซึ่งผมเองก็เพิ่งเปลี่ยนจาก ADSL เดิมๆ ที่ใช้มานานมากถึงมากที่สุด เป็น airnet เมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากต้องใช้งานเรื่องของอัพโหลดนั่นเอง

- ในช่วงที่สภาพดินฟ้าอากาศต่างๆ ก็ใช้งานได้ดีในระดับนึงเลยทีเดียว ซึ่งเรื่องฝนตกนี่เค้าบอกว่าไม่มีผลซะด้วย อันนี้ต้องลองกันอีกทีนึง

- และนอกจากนั้นแล้ว ยังมีการการันตีว่ามีการจำกัดจำนวนผู้ใช้งานในการแชร์ความเร็วในแต่ละพื้นที่ ที่มั่นใจได้เลยว่าดีกว่ารายอื่นๆ ซึ่งทาง airnet เขารับประกันเอาไว้ ส่วนเรื่องปริมาณข้อมูลที่ใช้ อยากจะดาวโหลด หรืออัพโหลดเท่าไหร่ ก็ตามสบายเพราะเค้าคอนเซ็ปท์เดียวกับ Hispeed Internet ตามปกติ ไม่อั้นเรื่อง Bittorrent ด้วยนะ

เมื่อรู้จักกันแล้ว ก็มาดูเรื่องค่าใช้จ่ายกับแพ็คเกจกันหน่อย




ดูจากแพ็คเกจแล้ว ราคาแทบจะไม่ต่างกันกับแพ็คเกจ Hispeed Internet อื่นๆ เพียงแต่ airnet ให้บริการอัพโหลดมากกว่า สำหรับผมคุ้มแน่นอน โดยเฉพาะไปอัพ Bit


ช่วงนี้มีโปรโมชั่นส่วนลดค่าติดตั้ง แต่ยังต้องจ่ายอยู่ที่ 1,000 บาทนะครับ อย่าลืมอ่านหมายเหตุให้ดีก่อนตัดสินใจนะ



หรือถ้าหากเป็นลักษณะการใช้งานในบริษัท หรือร้านเน็ท หรืออื่นๆ ที่ต้องการ IP จริง ก็มีแพ็คเกจให้เลือกเหมือนกัน แต่แพงหน่อย



มีโปรโมชั่นติดตั้งฟรี งานนี้ฟรี ไม่เสียตังค์นะ เสียดายชาวบ้านตาดำๆ เสียตังค์

อยากให้หาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจติดตั้งนะครับ เพราะจะมีสัญญาเงื่อนไขใช้งาน 12 เดือน เหมือนกับ Hispeed Internet ทั่วไปอีกนั่นล่ะ อยากใช้งานกันหรือยังเอ่ย ถ้าอยากใช้แล้ว ไม่ใช่จะได้ใช้งานกันง่ายๆ นะ เพราะเราต้องตรวจเช็คพื้นที่ ที่ Airnet เขาให้บริการซะก่อน ว่าถึงหรือเปล่า ถ้าสนใจล่ะก็ลอง ตรวจสอบพื้นที่ที่รองรับกันได้ที่นี่ ก่อนที่จะสมัครใช้งาน เท่าที่ดูข้อมูล ก็ครอบคลุมทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล แต่บางอำเภอก็ยังไม่รองรับ ส่วนต่างจังหวัด ก็มีให้บริการเพียบเลย ใครอยู่จังหวัดไหน ลองไปตรวจสอบดูได้นะครับ ส่วนตัวอยู่ นนทบุรี ได้เรียบร้อย หลังจากช่วงแรกเมื่อต้นปีที่แล้ว ที่เค้าเพิ่งเปิดให้บริการ พื้นที่ผมยังไม่รองรับ จนผ่านไปเกือบปี มีขยายพื้นที่ให้บริการเรื่อยๆ จนผมได้ใช้เขียนบทความอยู่นี่ล่ะ

เมื่อตรวจสอบความพร้อมเรียบร้อย ก็มาดูเรื่องการสมัครและติดตั้งกันบ้าง

ก่อนอื่นที่ควรรู้เลยก็คือ เรื่องการสมัครและการติดต่อเซอร์วิสต่างๆ หากต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ ไปที่ 1742 หรือ 02-614-0742 ได้เลย และหากอยากสมัครใช้บริการก็ไปที่ AIS Shop หรือ Telewiz ก็ได้ หรือสะดวกผ่านหน้าเว็บก็ได้เช่นเดียวกัน สมัครใช้บริการได้ที่นี่ ซึ่งพอเรากรอกรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่โทรกลับมานัดวันติดตั้ง สะดวกเสาร์หรืออาทิตย์ก็ได้นะครับ ไม่ต้องห่วง ของผมเองก็เข้ามาติดวันเสาร์ปลายปี 31 ธันวาคมโน่นแน่ะ ก็ยังมีเข้ามาติดตั้งให้นะ ก่อนเข้ามาติดตั้ง จะมีทีมงานโทรเข้ามายืนยันก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 ชั่วโมง จริงๆ เคสผม นัดติดตั้งเสาร์ก่อนหน้านั้น แต่เปลี่ยนใจกระทันหัน ก่อน 1 วัน โทรไปแจ้ง 1742 รับเรื่องเรียบร้อยแล้ว แต่เข้าใจว่าอาจจะประสานงานไม่ทัน รุ่งขึ้น ทีมติดตั้งโทรเข้ามายืนยัน แต่สรุปก็ยกเลิกไปติดตั้งวันที่ 31 ธันวาคมแทน

มาถึงตอนติดตั้งกันบ้าง

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามา ก็จัดเตรียมอุปกรณ์พร้อมทั้งเตรียมปีนขึ้นบ้าน คือต้องบอกว่าเจ้าอุปกรณ์ตัวรับสัญญาณที่เรียกว่า CPE ต้องติดตั้งเอาไว้ในที่สูง ที่สามารถรับสัญญาณได้ ซึ่งแน่นอนว่าต้องปีนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อวัดระดับความแรงของสัญญาณที่รับได้

อุปกรณ์ที่ได้รับ

- CPE หรือตัวรับสัญญาณ
- POE ตัวจ่ายไฟให้กับ CPE พร้อม AC Adapter
- สาย LAN ตามการติดตั้งใช้งานจริงไม่เกิน 15 เมตร
- Wi-Fi Router (เช็คโปรโมชั่นสำหรับแลกซื้อหรือแถม)


ตอนที่ติดตั้งจริงไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ เลยขออ้างอิงจาก airnet นะครับ



ทีมงานเข้าไปติดตั้ง Router เพื่อเตรียมทดสอบสัญญาณ



ติดตั้งเจ้า Router ใช้เวลาไม่นานนัก และอีกคนนึงขึ้นไปวัดสัญญาณจาก CPE บนหลังคา



ส่วนคนข้างล่างก็สบายไป คอยดูสัญญาณ และตะโกนบอกว่า ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายๆ ขวาๆ A B A B Select Start เอ๊ย ไม่ใช่ ก็คอยบอกว่าสัญญาณที่รับได้มีความแรงแค่ไหน ตรงนี้ถ้าได้ต่ำกว่า -70db จะดีมาก จะแรงเต็มเม็ดเต็มหน่วย



พอได้ระดับที่สัญญาณแรงพอแล้ว ก็ทำการยึดเจ้า CPE เข้ากับตัวบ้าน ซึ่งขั้นตอนนี้ก็ต้องดูกันหน่อย เพราะบางทีระดับ หรือจุดที่ยึดกับตัวบ้านอาจจะไม่สวยงาม คือเราต้องประสานกับคนที่ติดตั้งเสากับตัวบ้านให้ดี ว่าจะให้ติดตรงไหน บางครั้งอาจจะมีเรื่องมุมมองของตัวบ้าน และอื่นๆ แล้วแต่เจ้าของบ้านอย่างเรา ส่วนผมก็เลือกติดตรงจั่วบ้าน และบอกให้เดินสายลงมาที่ห้องทำงาน ซึ่งตรงนี้หากเดินสายไม่เกิน 15 เมตร เค้าไม่คิดตังค์เพิ่มนะ



พอยึดเรียบร้อยแล้ว ก็ทดสอบสัญญาณกันอีกพักนึง



ซึ่งถ้าหากสัญญาณหลังจากติดตั้งแล้ว แกว่งมากเกินไป ก็สามารถปรับแต่งทิศทาง หรือความสูงในการรับสัญญาณได้ ขอบอกว่าให้ได้ -xx db ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้นะ



ส่วนด้านล่างก็เตรียมสายและเข้าหัว RJ45 เพื่อต่อเข้ากับ Router



บางจุดอาจจะต้องมีการเจาะฝาผนังด้วย อันนี้ก็แล้วแต่เราดีไซน์ หรือความต้องการใช้งานของเรา ได้หมด ไม่ว่าจะลากไปที่ไหนในบ้าน แต่อย่าเกิน 15 เมตรก็แล้วกัน ไม่งั้นเสียตังค์เพิ่มนะ ถ้าจำไม่ผิด เมตรละ 30 บาท ส่วนสาย CAT5 ที่ใช้เป็นแบบ outdoor ทนแดดทนฝน มั่นใจได้ว่าใช้ของดี



เสร็จแล้วก็ต่อเข้ากับ Router และกระจายสัญญาณผ่าน Wi-Fi หรือจะผ่าน LAN port ก็ได้ แล้วแต่เราสะดวกเลย ส่วนผมใช้ Wi-Fi สะดวกสุด

หลังจากนั้นก็มันส์ได้เลย อยากอัพโหลด youtube แบบ HD ไฟล์ 2GB เร็วๆ มานานแล้ว เคยอัพโหลด ADSL แบบเดิมๆ ใช้เวลาเป็นวัน มาลองอัพโหลดจาก airnet นี่ไม่กี่ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว ประทับใจมาก เอาผลการทดสอบตอนช่วงกลางคืนที่คาดว่ามีคนใช้งานกันเพียบมาฝากด้วย



ทดสอบครั้งแรก



ทดสอบครั้งที่สอง



ทดสอบครั้งที่สาม

จากการทดสอบทั้งสามครั้ง จะเห็นว่าค่าอัพโหลดและดาวโหลดอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ต้องบอกว่ามีสวิงบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วบน Hispeed Internet แม้แต่ airnet เองก็ไม่เว้น แต่โดยส่วนใหญ่ระดับสัญญาณ และความเร็วที่วัดได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ยิ่งช่วงเวลากลางวันนี่จัดเต็ม เคยได้เกือบ 8 Mbps เลยทีเดียว อัพโหลดก็ 7 Mbps ขึ้น เรื่องหลุด มีบ้างตามปกติ ทั้งปี อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมได้ยังไง คงต้องฝากความหวังไว้กับผู้บริการอย่าง airnet ว่าอยากให้หลุดบ่อยเลย ไม่ว่าจะเป็นงานดาวโหด อัพโหลด บางครั้งหลุดนี่ต้องมานั่งอัพกันใหม่ ใช้เวลาอีกนานเลยทีเดียว เชื่อว่าหลายคนที่ใช้ Hispeed Internet มาก่อนคงจะมีประสบการณ์กันบ้าง

พอทดสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมทดสอบให้ชัวร์ เอาอุปกรณ์ที่มีมาเชื่อมต่อเช็คดูให้ละเอียด พอสาแก่ใจเราแล้ว ทีมติดตั้งจะให้เราเซ็นต์เอกสารติดตั้ง พร้อมเก็บสำเนาบัตรประชาชน และเราจะได้รับใบขอใช้บริการหรือสัญญา ให้เก็บเอาไว้ให้ดีนะครับ เป็นหลักฐานเผื่อว่าอาจจะต้องใช้งานในภายหลัง อ้อ อย่าลืมจ่ายเงินค่าเดินสายเกินด้วยล่ะ แบบว่าลากสายยาวเกิน 15 เมตร ตรงนี้ลากไม่เกินก็ไม่ต้องจ่ายนะ เพราะค่าติดตั้งจะเรียกเก็บในรอบบิลแรกพร้อมกับค่าบริการ พอหลังจากทีมติดตั้งกลับไปเราก็เล่น Bittorrent อัพค่าเรโชได้สบายใจ แต่ถ้าหากเกิดมีปัญหาล่ะจะทำยังไง เข้าไปเรื่องบริการหลังการรขายกันเลย

บริการหลังการขาย

แน่นอนครับว่า เซ็นต์สัญญาขอใช้บริการไปเรียบร้อยแล้ว หากเปลี่ยนใจจะยกเลิก เงื่อนไขแจ้งไว้ว่าต้องจ่าย 4,000 บาทนะครับ เราเซ็นต์เอาไว้แล้วงานนี้เบี้ยวไม่ได้ หากไม่พอใจต้องยอมจ่ายเท่านั้น แต่เชื่อว่าหากได้ลองใช้งานแล้ว ติดปัญหา คงไม่อยากจ่าย 4,000 บาทเพื่อยกเลิก แต่คงอยากใช้งานต่อมากกว่า ดังนั้น โทรไปแจ้งได้เลยที่ 1742 หรือ 02-614-0742 เค้าให้บริการตั้งแต่ 9.00-24.00 น. แต่ถ้าเกิดเดี้ยงก่อนหรือหลังเวลาล่ะก็ ทำใจ อีกช่องทางนึงก็คือ facebook ลองไปแจ้งปัญหาไว้ได้เข้าไปที่ www.facebook.com/ais.airnet เดี๋ยวผมแนะนำการแก้ปัญหาเบื้องต้นทิ้งไว้หน่อยดีกว่า ส่วนพอใช้งานครบ 1 เดือนก็อย่าลืมไปจ่ายค่าบริการที่ AIS Shop หรือ Telewiz ตามแพ็คเกจที่เลือกไว้ด้วยล่ะ หรือจะผ่านช่องทางออนไลน์ก็ได้ ผ่านหน้าเว็บตัดบัตรเครดิตหรือ mPay ก็ได้ โดยเข้าไปที่ http://www.ais.co.th/airnet/th/online_payment.html

สรุปการใช้งาน

หลังจากบอกรายละเอียดต่างๆ ไว้เกือบหมดแล้ว ก็มาถึงสรุปการใช้งานจริงกันบ้าง คงต้องแอบมีบ่นนิดหน่อยล่ะงานนี้ เนื่องจากพื้นที่ที่ให้บริการ บางพื้นที่ ทั้งที่อยู่ติดกันไม่กี่กี่โล แต่ก็ไม่สามารถให้บริการได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก แต่ก็คงทำได้แต่แจ้งความต้องการทิ้งเอาไว้ เพราะมีพี่ทีมงานอยากจะติดตั้งแต่ไม่มีรายชื่อในพื้นที่ที่รองรับ ก็อดไปซะงั้น ส่วนตัวผมที่ติดตั้งและใช้งานจริง ยังไม่ครบเดือน แต่จากที่ฟังมาหลายฟีดแบ็ค ก็มั่นใจได้ในระดับนึง และจากที่ใช้งานเอง ก็ให้คะแนน 70% ได้ เนื่องจากบางครั้ง ในช่วงสัปดาห์แรก มีปัญหาเหมือนกัน ไม่ว่จะเป็นการต่อเน็ทไม่ได้ อาจจะด้วยปัญหาจากอุปกรณ์ หรืออื่นๆ ก็ใช้งานไม่ได้ไปสักพักแบบข้ามคืน เพราะปัญหาเกิดช่วงหลังเที่ยงคืน ก็ไม่มีทีมงานรับสายแล้ว อันนี้ถือว่าทำใจ ดียังมีสำรอง ADSL เดิมอยู่ ยังไม่ยกเลิก ก็ยังพอไหว และมี ICT Free WiFi สำรองอีกชั้นนึง เลยมั่นใจได้ว่ามีเน็ทใช้แน่ ถ้า airnet ล่มจริงๆ สังเกตุว่าปัญหาจะเกิดช่วงกลางคืนซะส่วนใหญ่ อาจจะด้วยมีการใช้งานหนักทำให้ตัวอุปกรณ์ส่งมีปัญหาหรือเปล่า อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจ แต่ช่วงนี้ก็เจอตอนกลางวันบ้าง แต่ไม่บ่อยเท่าไหร่ ดูจาก Log เห็น links down บ้าง ค่า -xx db นี่ก็เพียบเลย แต่ก็เป็นแค่บางช่วง ส่วนใหญ่จะวิ่งเต็มตอนกลางวัน กลางคืนก็อย่างที่เห็นในการทดสอบข้างบน เรื่องแจ้งปัญหา 1742 มีแอบช้าบ้างอะไรบ้าง และปัญหาทางเทคนิคก็ต้องส่งให้ทีม support โทรเข้ามาประสานงานภายหลัง ของผมก็มีแจ้งเอาไว้ว่าหากเกิดปัญหาอีกจะเปลี่ยน CPE ให้ ให้โทรเข้าไปแจ้ง 1742 อีกที เพราะเคส CPE มีปัญหาก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอหนักเหมือนช่วงแรก เลยยังนิ่งๆ อยู่ การประสานงานกลับมาค่อนข้างรวดเร็ว ประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังจากที่แจ้งปัญหา ก็มีการติดต่อกลับมา นับว่าเรื่อง Call Center และ Support ของ AIS ยังใช้การได้ ซึ่งเค้ามีกำหนดว่าจะติดต่อเข้ามาภายใน 90 นาที แต่เคสล่าสุด สงสัยแจ้งไปดึก เลยยังไม่ติดต่อกลับมา แต่ก็ยังดีต่างกับอีกค่ายที่ใช้อยู่เดิมอย่าง True Internet ที่มีปัญหาทีไร รอสายแบบว่าไหม้ทุกที นี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ใชิพิจารณาเปลี่ยนมาเป็น airnet อีกทั้งค่าอัพโหลดที่ปัจจุบันถึงแม้ว่าความเร็วจะขึ้นไปถึง 100Mbps บางพื้นที่แต่อัพโหลดหากต้องการ 2Mbps ก็ต้องเสียตังค์มากขึ้น พื้นฐานอยู่ที่ 512Kbps เท่านั้นเอง และเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่คู่สายเต็ม หรือพื้นที่ไม่รองรับ Hispeed-Internet แบบเดิมๆ

แนะนำเบื้องต้นหากมีปัญหา

ก่อนอื่นลองเช็คให้มั่นใจว่าเครื่องคอมเราต่อเน็ทไม่ได้แน่ๆ ก็แนะนำเหมือน 1742 ที่เป็นเครื่องตอบรับอัตโนมัติเลยว่า ให้เช็คเรื่องการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น Wireless หรือ Wire ว่ายังเชื่อมต่อชัวร์หรือเปล่า บางทีปิด Wi-Fi หรือสาย LAN หลุดโดยไม่รู้ตัวก็มีนะ และอีกจุดนึงคือ การเชื่อมต่อกับ Router ไปเช็คไฟต่างๆ จาก Router ให้ดีก่อน ว่ายังทำงานปกติ อาจจะเข้าไป config ก็ได้หากเป็นคนที่ตั้งค่าใช้งาน Router เป็นอยู่แล้ว รวมถึง CPE ด้วย ให้เข้าไปดูค่า -xx db ว่าอยู่ที่เท่าไหร่ บางครั้งค่า -xx db นี้ต่ำมากเกินไป อย่างผมต่ำอยู่ที่ -81db เป็นต้นไป ทำยังไงก็เชื่อมต่อไม่ได้ ก็ทำการ Reset CPE อยู่หลายรอบ และลองตรวจสอบตัวอุปกรณ์ POE เป็นตัวเล็กๆ ที่อยู่ก่อนถึง Router ที่มีสาย LAN เสียบเอาไว้ ว่ามีไฟติดอยู่หรือไม่ บางครั้งเจ้านี่อาจจะไม่จ่ายไฟก็ได้ และหาก Reset เจ้า CPE แล้วไม่หาย ก็ให้ถอด POE ออก แล้วเสียบเข้าไปใหม่ ก็เป็นอีกวิธีสำหรับ Reset CPE นะครับ ถ้าทำทุกอย่างแล้วไม่ได้ก็แจ้ง 1742 เลยว่าเช็คโดยละเอียดแล้ว ให้ส่งทีมเข้ามาเช็คหน้างานได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเช็คอีกรอบ

ก็คงเป็นการแนะนำการใช้งาน AIS airnet เบื้องต้น หากสนใจก็ลองเข้าไปหาข้อมูลและสมัครใช้บริการกันได้เลย

บทความนี้เป็นบทความ advertorial

ไม่มีความคิดเห็น

======= Start Skimlink ======= ======= Stop Skimlink =======