Impact-Site-Verification: 71731b28-6515-46b4-a1fe-c3af7dfa427f ทำได้ยังไง? เมื่อลูกขี่จักรยาน 2 ล้อได้ โดยไม่ได้ขี่ 4 ล้อมาก่อน? เมื่ออายุแค่ 3 ขวบ! - Happy Tech Blog

Header Ads

Hightlight

ทำได้ยังไง? เมื่อลูกขี่จักรยาน 2 ล้อได้ โดยไม่ได้ขี่ 4 ล้อมาก่อน? เมื่ออายุแค่ 3 ขวบ!



   เด็กๆ ยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมาก เรื่องความสามารถของมนุษย์เรา ที่เด็กน้อยคนนักที่จะมีติดตัวมาแต่เด็ก หรือเอาจริงๆ แล้ว อาจจะติดตัวมาแต่เค้ายังไม่รู้ความสามารถของตัวเอง ซึ่งความสามารถบางครั้งก็ต้องการฝึกฝนเป็นประจำ จนกลายเป็นความสามารถติดตัวที่กลายเป็นความสามารถพื้นฐานที่เรามักจะเรียกว่า skill นั่นล่ะครับ



แต่เจ้า Skill หรือความสามารถนั้นอาจจะเป็นความสามารถที่ทุกคนมีก็เป็นได้ ดังเช่นเคสนี้ ลูกผมเองที่มีความสามารถขี่จักรยานสองล้อเด็กได้ โดยมีอายุ 3 ขวบ 10 เดือน และไม่ได้ขี่จักรยาน 4 ล้อมาก่อน

น่าประหลาดใจไหม? 


สำหรับหลายคนผมเชื่อว่า ประหลาดใจและบอกว่า ขี่เป็นเร็วมาก และอีกหลายคนที่บอกว่า ก็ธรรมดา ซึ่งส่วนตัวผมเอง เชื่อว่าเป็นธรรมดา ใครๆ ก็เป็นกันได้ และมีอีกหลายคนที่เป็นเร็วกว่าลูกผมแน่นอน เพียงแค่มีการฝึกเท่านั้นเอง


ไหนบอกว่าไม่ได้ขี่ 4 ล้อมาก่อน?

 การฝึกคือไม่ได้ฝึกจักรยาน 4 ล้อไงครับ ทริกมีนิดเดียวเอง ไม่ยากเลย แต่งานนี้ต้องลงทุน หากต้องการให้เด็กเป็นเร็ว ผมเชื่อว่าอุปกรณ์สิ่งนี้ช่วยได้เลยครับ ผมว่าทุกคนที่ผ่านมาอ่านน่าจะเคยได้ยิน นั่นก็คือ Strider หรือจักรยานไม่มีบันได้สำหรับถีบนั่นเอง

Strider ช่วยการทรงตัวของเด็ก


  เรื่องการถีบจักรยาน ผมเองก็ถีบเป็นตั้งแต่ประมาณ ป.4 ได้ ซึ่งก็หัดไปล้มบ้างก็ธรรมดา หลายคนก็น่าจะเป็นเหมือนกัน ในยุคนั้นเชื่อว่ามีน้อยคนมากที่จะรู้จัก Strider หรือไม่ก็ยังไม่กำเนิดเสียด้วยซ้ำ แต่มายุคนี้ Strider นับว่าเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมที่ช่วยให้ เด็กมีความมั่นใจในการทรงตัว และมีอีกหลายแบรนด์ที่เข้ามาทำตลาดนะครับ สะดวกแบรนด์ไหนก็ใช้แบรนด์นั้น ซึ่งช้อดีของจักรยานเหล่านี้คือน้ำหนักเบา ช่วยให้เด็กๆ ทรงตัวได้เร็วขึ้น

Strider ไม่ได้ช่วยให้ปั่นได้

   ตามนั้นเลยครับ Strider ไม่ได้ช่วยให้ปั่นเป็น หรือให้ถีบจักรยานได้ แต่ช่วยในการทรงตัวของเด็กๆ ให้เขาได้กล้าที่จะแล่นไปข้างหน้า เอาขาขึ้น และหัดทรงตัวด้วยความเร็วที่ร่างกายของเขากระทำขึ้นมา หรือภาษาชาวบ้าน ไถด้วยความเร็วเท่าไหร่ ก็ไปด้วยความเร็วตามกำลังของเด็กนั่นล่ะครับ ทำให้เขาเกิดความมั่นใจและมีผลทำให้ลูกผมปั่นได้โดยไม่ได้ฝึก 4 ล้อมาก่อน เหมือนกับเด็กส่วนใหญ่ที่พ่อแม่ มักจะซื้อจักรยาน 4 ล้อให้ฝึกก่อน

แล้วจักรยาน 4 ล้อล่ะ?

    ก็ยังหัดได้นะผมว่า แต่สำหรับวิธีผมแล้ว แนะนำให้ใช้ Strider มากกว่า และถ้าเทียบราคาแล้วอาจจะดูว่าแพงนะครับ เพราะ Strider นี่ผมจัดมาประมาณสี่พันกว่าบาทมั้ง รวมพวกอุปกรณ์สนับเข่า หมวกกันน๊อค ก็น่าจะราวๆ ห้าพัน ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งต้องบอกว่า ยี่ห้ออื่นๆ ก็ได้นะ เพราะราคาสี่ห้าพันสำหรับบางคนผมว่าการลงทุนแบบนี้ก็คิดหนักเหมือนกัน ซึ่งราคาจักรยาน 4 ล้อในปัจจุบันผมว่าก็ไม่หนีกันมากนะครับ ถ้าอยากจะประหยัดจริงๆ ก็เอา 4 ล้อมานี่ล่ะครับ ตามราคาที่เราไหว และถอดบันได้และล้อเสริมออก แต่ก็ระวังตรงโซ่หน่อยแค่นั้นเอง กับเรื่องน้ำหนักที่จะมากกว่า Strider ถ้าจักรยานน้ำหนักเบาก็มีราคาค่าตัวไม่ต่างจาก Strider สักเท่าไหร่ อันนี้อยู่ที่เลือกเลยครับ

เมื่อหัดจักรยานเพียงสองวันก็เป็นเลย

    งานนี้บอกเลยว่าไม่รู้ว่าขี่เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่สำหรับ Strider เคยไปแข่งที่ Central World มาเมื่อปีที่แล้ว ได้เข้ารอบชิงน่าจะ 10 คนสุดท้าย โดยปีก่อนหน้านี้เขาอายุได้เพียง สองขวบกว่าๆ เท่านั้น เริ่มเล่น Strider ก็ประมาณสองขวบต้นๆ ได้ ให้หัดไถไป จนเขารู้จักการทรงตัวของเขาเอง มาเรื่อยๆ ซึ่งเอาจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เคยหลังกจากหัด Strider ทรงตัวได้สักพักนึง ก็ให้ลองมาหัดขี่จักรยาน ซึ่งด้วยสรีสะร่างกาย ความสูงและหลายๆ อย่าง ตอนปีที่แล้วยังไม่สามารถขี่ได้ และเขาก็ไม่เอา ใช้ Strider ดีกว่า ไถสนุกกว่า จนมาให้ลองนี่ล่ะ ถึงรู้ว่าปั่นได้แล้ว ผมเชื่อว่ามีอีกหลายคนที่เป็นเร็วกว่าลูกผม อาจจะใช้เวลาแค่วันเดียวหรือไม่กี่ชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ

 วันแรกของการหัดปั่น

   พอมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คิดยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยหยิบจักรยานคันเก่าที่เขาไม่ขี่เมื่อปีก่อน เอามาให้ลองหัดดู และเขาเองก็มีความสนใจ มันก็เลยไปกันได้ ซึ่งช่วงแรก เขายังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ในการออกตัว ยังต้องให้ช่วงพยุงด้านหลัง เพื่อออกตัว และยังกังวลกับการปั่น ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง เขาก็เริ่มเรียนรู้และเริ่มปั่นได้ แต่ยังให้ช่วงพยุงด้านหลังตอนออกตัว เราก็แค่ประคองให้เขาพอทรงตัวได้ แต่ก็พยายามบอกว่าให้นึกถึง Strider ที่ไถเองก็ได้ ทรงตัวก่อนแล้วค่อยเอาเท้าขึ้นไปปั่น ซึ่งวันแรกเขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับการใช้เท้าขึ้นไปบนบันไดปั่น แต่ก็สนุกมาก แบบว่าจนมืด เพราะเราเริ่มกันช่วงเย็นๆ ยังบ่นว่าสนุกและอยากปั่นต่อ

วันที่สองของการหัดปั่น

     วันต่อมาตอนเช้า เป็นวันอาทิตย์ ปกติจะพาเด็กๆ ไปวิ่งออกกำลังกายกันอยู่แล้ว ซึ่งไม่พลาด ก็เอาจักรยานใส่หลังรถติดไปด้วย แทนที่ Strider ที่เขาเคยติดไปทุกครั้ง และครั้งนี้ ไปฝึกที่สวนสารธารณะ  ในช่วงเช้ายังมีคุณแม่ช่วยพยุงด้านหลังเหมือนเมื่อวาน  แต่สุดท้าย เขาสามารถไถเหมือน Strider เพื่อทรงตัวตอนเริ่มต้น และสามารถปั่นได้เอง ซึ่งคุณพ่อสาย Tech อย่างผมถือเป็นเรื่องอเมซิ่ง และดีใจกับลูกมาก และชมเขาอยู่ตลอดเวลา เขาก็บอกว่า เขาปั่นได้แล้ว โตแล้ว เพราะเมื่อวานมีบอกกับเขาว่า ที่ต้องจับท้ายให้ก็เพราะเขายังไม่โตพอ ถ้าเขาโตพอแล้ว จะปั่นได้เองโดยไม่ต้องจับ ก็มาบอกใหญ่เลยว่าเขาโตแล้วนะ เขาปั่นเองได้แล้ว เหมือนคนโต

นับว่าเป็นความสำเร็จเล็กๆ ของเด็ก

     ผมรู้สึกได้ถึงแววตา และความรู้สึกที่เขาทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดสำเร็จ และยิ่งเป็นการปั่นเขาสนุกกับมันมาก จนมาถึงที่ผมเขียนอยู่นี้คือประมาณ 1 อาทิตย์ เขาปั่นเกือบทุกวัน แต่ก็มีวันนึงที่ล้ม ข้อศอกเป็นแผล ซึ่งเขาก็ยังสนุกกับการปั่น ไม่ได้กลัวแต่อย่างใด การล้มเป็นเรื่องธรรมดา ขอเพียงอย่าซ้ำเติม และเรามีกำลังใจ และคำพูดดีๆ ให้แก่กัน เขาจะมั่นใจและเดินต่อได้ ดังคำโบราณที่ว่า "คนล้มอย่าข้าม" แต่ผมใส่ต่อท้ายอีกนิดให้ "พูดให้กำลังใจกับคนนั้นด้วย"
 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาสามารถว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ได้ ตอนอายุ 3 ขวบ 9 เดือน ซึ่งมีเบิื้องหน้าเบืิ้องหลัง ของความสำเร็จเล็กๆ เช่นเดียวกัน เอาไว้คุณพ่อสาย Tech มาเหลาให้ฟังกันใหม่ก็แล้วกันนะ ลูกคนเล็ก เป็นคนที่เราได้ลองผิดลองถูกกันคนแรกมาแล้ว และเห็นผลชัดเจน ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ในระหว่างที่เลี้ยงลูกมาในช่วง 6 ปีนี้ คนโต 6 ขวบ คนเล็ก เกือบ 4 ขวบละ เป็นประสบการณ์เล็กๆ ที่หลายคนคงเจอไม่เหมือนกัน หวังว่าคงเป็นไอเดียนึงในการเลี้ยงลูกให้สนุกก็แล้วกันนะครับ

ฝากกด Like page https://www.facebook.com/DaddyTechTH/ เพื่อเป็นกำลังใจกันหน่อยเด้อครับ

ไม่มีความคิดเห็น

======= Start Skimlink ======= ======= Stop Skimlink =======