True Young Blogger #5 "มากกว่าที่คิด" เมื่อเข้าเยี่ยมชม "มูลนิธิออทิสติกไทย"

 True Young Blogger ครั้งที่ 5 คราวนี้ ได้พาผมไปเยี่ยมมูลนิธิออทิสติกไทย ซึ่งในครั้งนี้ ได้รับเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับความรู้ ความคิด และความรู้สึกเกี่ยวกับเด็กออทิสติก  แถมได้เห็นสิ่งต่างๆ ที่เด็กออทิสติกทำได้ ทำให้ผมได้รับแรงบัลดาลใจติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วยซึ่งได้กลับมา "มากกว่าที่คิด" จริงๆ

ต้องขอบคุณ

  ก่อนอื่น ต้องขอบคุณโครงการ True Young Blogger ครั้งนี้ที่จัดขึ้นมาให้ผมได้ไปสัมผัสกับ ความพิเศษ ของเด็กออทิสติก ในอีกหลายแง่มุม ที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งทำให้ได้อะไร "มากกว่าที่คิด" จากเดิมที่มีความรู้ ความเข้าใจ ความรู้สึกกับเด็กออทิสติกในรูปแบบนึง จากที่เคยเห็น เคยสัมผัสแบบผิวเผิน จนครั้งนี้ ได้เข้าใจในเบื้องลึกมากยิ่งขึ้น เข้าถึงแรงบัลดาลใจหลายๆ อย่างที่บางทีเราอาจจะลืมไปแล้วก็ได้

"มากกว่าที่คิด"

      อันนี้คือสำหรับผมเอง ที่ความคิดเกี่ยวกับแง่มุมของเด็กออทิสติกที่เปลี่ยนไป ทำให้ได้รู้ว่า เด็กออทิสติก หรือคนที่เป็นออทิสติกนั้น ก็เหมือนกับเราๆ ท่านๆ นี่ล่ะครับ อย่างนึงที่ผมรู้ก็คือ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ ถ้าเขาเลือกเกิดได้ ก็อยากจะเป็นปกติเเหมือนเราๆ ท่านๆ ที่นั่งอ่านอยู่นี่ล่ะ ซึ่งความคิดตั้งแต่ที่ได้ยิน ได้ฟัง ก่อนหน้านี้ คือเด็กออทิสติกน่าสงสาร ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และอีกหลายแง่มุมที่เราได้ยินมา แต่เมื่อได้มาสัมผัสคือ นี่มันมากกว่าที่คิด

"และเกินความคาดหมาย"

    ต้องบอกเลยว่าการได้ไปเยี่ยมมูลนี้ออทิสติกไทยครั้งนี้เกินความคาดหมายมาก ตอนแรกก็นึกว่าไปเยี่ยมชมตามปกติ แต่สิ่งที่เห็น สิ่งที่สัมผัส และเก็บกลับมาเกินความคาดหมายจริงๆ แค่เริ่มแรก การต้อนรับของทางมูลนิธิ ก็ทำเอาทึ่งแล้ว เพราะพวกเขา ที่ผมเคยคิดว่าเขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรอก แต่ว่ากลับเล่นดนตรีไทยได้อย่างน่าทึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น ยังเพิ่งรู้ด้วยว่า CP Group และ true เป็นผู้สนับสนุนมูลนิธินี้อีกด้วย

มูลนิธิ = โรงเรียน?

     งานนี้ได้ความรู้และความเข้าใจในเด็กออทิสติกอีกมากเลยพวกเขาทำอะไรได้มากกว่าที่คิด โดยท่านผู้อำนวยการมูลนิธิ ได้ขึ้นมาให้ข้อมูลต่างๆ มากมาย รวมถึงเจ้าหน้าที่ และคุณครูที่อยู่ในมูลนิธินี้ด้วยครับ ซึ่งมูลนิธิที่เห็นที่เคยเข้าใจ พอมาสัมผัสจริงๆ คือไม่ใช่แค่มูลนิธิ แต่ยังเป็นโรงเรียนสำหรับเด็กออทิสติกอีกต่างหาก คือผมไม่เคยรู้เลยว่า เด็กออทิสติกมีโรงเรียนเฉพาะ เคยเห็นแต่สมัยก่อนที่เรียนร่วมกับเด็กปกติแต่จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

เด็กออทิสติกทำอะไรได้บ้าง?

     ผมว่าเป็นคำถามที่หลายคนน่าจะอยากรู้ และผมมีคำตอบจากการไปเยี่ยมชมและพูดคุยในครั้งนี้ มีหลายแง่มุมมากที่เค้าทำได้ และไม่เคยรู้เลยว่าเค้าทำได้บ้าง มาตามกันต่อครับว่าเค้าทำอะไรได้บ้าง เพราะครั้งนี้ ได้เยี่ยมชมเรียกว่าเกือบจะทุกกิจกรรมที่มีในโรงเรียนนี้ (ขอเรียกว่าโรงเรียนแทนมูลนิธิ)

สื่อการเรียนการสอนผ่าน tablet

     คือสิ่งนี้ผมไม่เคยคิดภาพออกเลยว่าเด็กออทิสติกจะใช้งานอุปกรณ์ หรือสื่อการเรียนการสอนยังไงกันบ้าง ซึ่งส่วนตัวชอบเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว มาเจอเรื่องเกี่ยวกับการสอนผ่านทาง tablet ซึ่งมีแอปที่ true ออกแบบมาใช้งานร่วมกับ tablet ของ true ซึ่งนอกเหนือจากนั้น น้องๆ ที่เรียนผ่าน tablet มีความสุขกับการเรียนการเล่นผ่าน tablet ผมได้เห็นรอยยิ้มของน้องๆ ที่ใช้งานอย่างมีความสุข อย่างเช่น แอปที่ให้เรียนรู้เกี่ยวกับฟัน และการทำความสะอาดฟันที่มีเกมให้เล่นเพื่อสร้างความเข้าใจให้พวกเขาได้ รวมถึงมีบทเรียนต่างๆ อีกมาก รวมถึงยังมีแอปที่ช่วยให้น้องๆ ที่ไม่สามารถสื่อสารผ่านทางเสียงได้ อาจจะมีความสามารถในการพูดน้อยกว่าปกติ แต่แอปก็ช่วยให้เขาบอกความต้องการของตัวเองได้ เรียกว่าเอาเทคโนโลยีมาใช้งานประโยชน์ไ้อย่างเต็มที่

ศิลปะภาพวาด

    สำหรับเรื่องศิลปะ หรือภาพวาด เป็นอีกสิ่งนึงที่ทำให้ผมทึ่งในความสามารถของน้องๆ เพราะผลงานของเขาบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว น้องๆ แต่ละคนมีแนวคิด และมีฝีมือเหมือนกับเด็กธรรมดา หรือมากกว่าเสียด้วยซ้ำ มีภาพมากมายที่มีการครีเอทออกมาจากไอเดียของตัวน้องๆ เอง โดยมีครูผู้ฝึกสอนแนะนำและดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ได้มีแค่น้องคนไทยด้วยนะครับ ยังมีน้องจากต่างประเทศมาเรียนด้วย อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ผมแปลกใจ

  มีน้องคนนึงมีฝีมือโดดเด่นมาก สามารถเก็บรายละเอียดภาพได้แบบว่า นี่เหมือนเป็นฝีมือจากเด็กปกติ ไม่แค่นั้น เรื่องการลงสี ก็เป็นอีกเรื่องที่สร้างเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และสิ่งนึงในการวาดภาพที่มีรายละเอียดขนาดนี้ได้ ก็คือเรื่องสมาธิ ความตั้งใจ และครีเอทีฟที่มีในตัวของเขา ซึ่งเอาตรงๆ ผมคนปกติธรรมดาเองก็ยังสู้น้องเขาไม่ได้เลย ศิลปะภาพวาดเป็นหนึ่งในการบำบัดหรือการช่วยเหลือน้องๆ ให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์นั่นเอง

การสร้างอาชีพ

   โครงการสร้างอาชีพนี้จริงๆ ผมไม่เห็นน้องๆ นะจุดนี้ เห็นแต่คุณป้า ที่นำสินค้ามาโชว์ให้ดู มีหลายอย่างเลย ที่น่าสนใจก็คือลูกชุบ ขนมที่เป็นรูปผลไม้ต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้และอาชีพ ที่นำมาให้ชิม ซึ่งได้ทำสำเร็จไว้แล้ว คาดว่าส่วนหนึ่งน่าจะทำมาจากมือน้องๆ ด้วยล่ะครับแต่แค่ไม่ได้ลงมือทำให้ชมกันสดๆ แค่นั้นเอง การทำขนมผมว่าก็ไม่ง่ายนะ

และผมก็ไปเจอชิ้นนี้มา เป็นสบู่อัญชัน เพิ่งทำแบรนด์ตัวเองได้ไม่นานนี้ ก้อนนี้ก็ 99 บาท ถามว่าแพงไหม ก็นิดนึง แต่เข้ามาถึงแหล่งผลิตแบบนี้ได้มาในราคาต้นทุน ทางคุณป้าใจดีมาก ที่อุดหนุนก็เพราะไปเจอสรรพคุณ แบบนี้ไม่สนับสนุนไม่ได้เลยครับ เพราะทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย หน้าผมนี่แทบไม่ได้ดูแล ไปก่อนวันอันควรเยอะเลย (ฮา) เลยอุดหนุนมาเรียบร้อย จริงๆ สามารถสั่งทำได้ มีรูปแบบต่างๆด้วนะครับ ไม่ได้มีแค่ก้อนกลมๆ อย่างเดียว และรับทำจำนวนจำกัดด้วยต่อวันด้วยนะ แถมยังมีสินค้าที่เกี่ยวกับการทำความสะอาดบ้าน ทำความสะอาดร่างกายอีกเพียบเลย ภูมิปัญหาชาวบ้านก็สร้างอาชีพได้ไม่ยาก

 
True Coffee เป็นมากกว่าการสร้างทักษะ

   อีกจุดนึงที่น่าทึ่ง และไม่เคยรู้มาก่อน มี True Coffee ตั้งอยู่ที่นี่ด้วย ซึ่งจริงๆ สาขานี้ไม่ได้เน้นเรื่องการขาย แต่เน้นเรื่องการฝึกทักษะของน้องๆ มากกว่า แต่ก็ขายตามปกตินะครับ คุณภาพเหมือนกับ True Coffee ตามมาตรฐาน แต่อาจจะมีเมนูยากๆ ที่ไม่มีขายนะครับ

   ที่นี่มีเรื่องเล่า ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณครูที่เป็นผู้ฝึกสอนน้องๆ ซึ่งการเป็น "บาริสต้า (barista)" บอกเลยว่าไม่ง่ายเลย มีหลายเรื่องต้องเรียนรู้ อย่างเช่น เรื่องเครื่องชงกาแฟขนาดมาตรฐาน มีรายละเอียดเยอะมาก กว่าจะเป็นกาแฟสักแก้ว ต้องมีการเตรียมตั้งแต่วัตถุดิบ กว่าจะไปจนถึงการชงออกมาเป็นกาแฟ  และที่สำคัญต้องมีมาตรฐานตามที่กำหนดอีกด้วย เรื่องความแป๊ะ ที่ขนาดคนปกติมาทำก็ไม่ง่าย และขั้นที่ยากก็คือประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับเครื่องทำกาแฟ มีขั้นตอนนึงที่ต้องมีการใช้น้ำร้อน การใช้การพ่นไอน้ำ ซึ่งมีเรื่องของเสียง และความร้อน บางทีก็มีลวกมือทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากสำหรับน้องๆ แต่ก็มีน้องคนนึง ที่สามารถจบออกไปทำงานเป็น "บาริสต้า" ประจำ True Coffee สาขานึง ที่ ม.มหิดล ศาลายา น้องเขาไม่เพียงช่วยเหลือตัวเองได้ ยังสามารถสร้างรายได้ และให้ความสุขกับคนที่รักกาแฟอีกด้วย
 

นอกจากเรื่องของการชงกาแฟน อาชีพ "บาริสต้า" ที่เป็นหนึ่งอาชีพที่น้องๆ ใฝ่ฝัน ความสามารถของน้องบางคน สามารถจัดการรายละเอียดอื่นๆ ในร้านได้อีกด้วย ทั้งเรื่องการวางแผนการซื้อวัตถุดิบ การทำรายรับรายจ่าย การคิดเงิน ทอนเงิน จัดการทางด้านบัญชี มีแผนกต้อนรับ ซึ่งหากมองผิวเผินแล้วเป็นอาชีพที่ดูธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาครับ เพราะมีความหมายกับน้องงๆ มาก และทาง true ก็เป็นอีกแรงสนับสนุนที่ทำให้เด็กออทิสติก สามารถทำงานได้เหมือนคนปกติทั่วๆ ไป และยืนยันได้ว่าเด็กออทิสติกมีดีกว่าที่คิด ทำได้มากกว่าที่เห็น

จากศิลปะสู่สินค้า

    ต่อเนื่องจากที่เราเห็นเรื่องศิลปะและภาพวาด สิ่งเหล่านั้นสามารถต่อยอดเป็นสินค้า ที่ผมว่าหลายคนหากเข้าไปที่ True Coffee น่าจะเคยเห็นสินค้าเหล่านี้อยู่บ้าง ผลงานเหล่านี้เป็นผลงานของเด็กออทิสติดนั่นเอง ซึ่งกระบวนการกว่าจะมาเป็นสินค้าก็ฝีมือน้องๆ ทั้งนั้เลย

 ที่นี่มีอุปกรณ์และเครื่องมือค่อนข้างพร้อมเลยทีเดียว ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าทักษะการใช้อุปกรณ์พวกนี้ต้องใช้ขนาดไหนนะครับ

    เรียกว่าเป็นการต่อยอดจากศิลปะ ฝีมือของน้องๆ จนกลายมาเป็นสิินค้าที่ออกสู่ตลาด ทำจริง ขายจริง มีสินค้ามากมาย ตั้งแต่สมุดโน๊ต ปฎิธิน แก้วน้ำ เสื้อ หมวก ถุงผ้า กระเป๋า ราคาไม่แพงซะด้วย อย่างแก้วน้ำ มีลายน่ารักเต็มเลย 

 
ทำงานจริงด้วยคอมพิวเตอร์ เอกสารและการพิมพ์

     อีกทักษะนึงคือเรื่องคอมพิวเตอร์ กับการใช้งานโปรแกรมต่างๆ รวมไปถึงการใช้อุปกรณ์สำนักงาน ซึ่งไม่ง่ายเลย น้องๆ มีความสามารถและมีทักษะการใช้งานสิ่งเหล่านี้ได้อย่างคล่องตัวมาก มากกว่าที่คาดไว้ ภาพในหัวก่อนได้มารับรู้และสัมผัสก็คือ คงทำได้แบบง่ายๆ เท่านั้น

เครื่องถ่ายเอกสารที่ีฟังก์ชั่นการใช้งานมากมายแบบเครื่องใหญ่สุดๆ น้องๆ ก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล่ว ถ่ายสองหน้า ฟังก์ชั่นพิเศษต่างๆ ทำได้หมด สามารถรับงานถ่ายเอกสารได้เลย และยังมีเรื่องของการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น กระดาษติดอะไรแบบนี้ ผมว่าก็ไม่ง่ายนะ กระดาษติดเครื่องถ่ายบางครั้งแม้ว่าจะมีบอก error บนหน้าเครื่อง แต่ก็ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในระดับนึงเลยทีเดียว

 เรื่องของทักษะการใช้งานคอมพิวเตอร์ และการพิมพ์ น้องแต่ละคนก็มีส่วนช่วยในงานสำนักงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ข้อมูลต่างๆ ประจำวัน ทำเอกสาร การปริ้นงานออกมาจากเครื่องพิมพ์ ผมรู้ว่าสิ่งเหล่านี้คือเป็นเรื่องปกติสำหรับเรา ที่อาจจะดูว่าก็ธรรมดา แต่ผมยืนยันว่าน้องๆ เก่งมากจริงๆ นอกจากนั้น ยังมีทักษะที่น่าทึ่งอีกอย่างนึงคือ เรื่องการทำนามบัตร มีน้องที่มีฝีมือในการใช้งาน Photoshop และ illustrator ในการทำนามบัตร ที่นำเอาไปใช้งานจริงได้เลย  ผมว่านอกจากน้องเขาจะมีความสามารถแต่สิ่งนึงที่ต้องมีความความอดทน เรียนรู้และไม่ย่อท้อ เพราะผมรู้เลยว่าช่วงแรกจะต้องยากมาก กว่าจะเข้าใจและลงมือทำ ไปจนถึงการเป็นมืออาชีพที่ทำออกมาได้ขนาดนี้

      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่ผมเกริ่นเอาไว้ว่า "มากกว่าที่คิด" สรุปจากความคิดที่เคยมีมุมมองกับเด็กออทิสติกในรูปแบบนึง แต่เมื่อได้มาสัมผัสกับน้องๆ อย่างใกล้ชิด ได้มารู้ข้อมูลต่างๆ มากมาย ทำให้มุมมองกับเด็กออทิสติกของผมเปลี่ยนไป ได้รับแรงบัลดาลใจ ขนาดเด็กออทิสติกยังทำได้ ทำไมคนปกติอย่างเราจะทำไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อได้เห็นความสามารถของน้องๆ คือต้องบอกเลยว่าเค้าเหมือนกับคนปกติอย่างเราๆ นี่ล่ะครับ อ้อ ไม่ใช่สิ บางอย่างสุดยอดยิ่งกว่าคนปกติทั่วไปอีกนะครับ และมูลนิธิออทิสติกไทย ได้มีส่วนช่วยน้องๆ เหล่านี้ให้สามารถดำรงชีวิต มีอาชีพ และอยู่ร่วมกับเราอย่างมีความสุข หากใครมีความสนใจหรืออยากได้ข้อมูล หรืออยากเยี่ยมชม หริออุดหนุนสินค้า สามารถติดต่อมูลนิธิออทิสติกไทยได้เลย ติดตามได้จากเพจ  Autistic Thai Foundation มูลนิธิออทิสติกไทย หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 0994545395 / 024183399

ข้อมูลเพิ่มเติมคือ หากต้องการเยี่ยมชมเป็นกลุ่มใหญ่ ต้องแจ้งล่วงหน้า และพูดคุยรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่กันนิดนึงนะครับ อาจจะต้องมีขั้นตอนนิดนึง แต่ถ้าเข้าไปเยี่ยมแบบ private เป็นครอบครัวก็จะง่ายหน่อย หรือหากอยากเข้าไปอุดหนุนสินค้าล่ะก็ วันเสาร์ได้ถึงบ่ายสามโมง วันธรรมดาถ้าจำไม่ผิดถึงประมาณ 4-5 โมงเย็นครับ สถานที่อยู่แถวตลิ่งชัน เส้นราชพฤกษ์