ตอนแรกนี้ มาดูเรื่องของการคอนโทรล หรือควบคุมกันก่อน
การควบคุมการเล่น Street Fighter 6 นั้น ถูกออกแบบมาให้สามารถ ควบคุมได้ 3 รูปแบบ
1. Classic Control สำหรับการควบคุมแบบเดิมๆ ในทุกภาคที่ผ่านมา
2. Modern Control สำหรับการควบคุมแบบใหม่ ง่ายกว่าเดิม
3. Dynamic Control สำหรับการควบคุมที่มี AI ช่วยในการตัดสินใจ
ทั้งสามแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียต่างๆ กัน และมีความยากง่ายต่างกัน แต่ที่ได้รับการยืนยัน และยอมรับ เพื่อใช้ในการเล่นแบบออนไลน์ เพื่อแข่่งขัน เก็บแต้มได้ก็คือ Classice Control และ Modern Control เท่านั้น ส่วน Dyncmic Control นั้นจะเหมาะสำหรับการเล่นกันเป็นการภายในที่ไม่เป็นทางการ เป็นแคชชวลกับเพื่อนที่เคยเล่นเกมต่อสู้ ที่อาจจะไม่ได้ลงลึกมากนัก รวมถึงเด็กๆ ที่ยังเล่นไม่เป็น ก็สามารถร่วมสนุกได้ไม่ยาก ซึ่งอาจจะใช้การเล่นในงานปาร์ตี้ งานเลี้ยง งานรื่นเริง เล่นกันสนุกๆ ได้ทุกเพศ ทุกวัย
1. Classic Control การควบคุมแบบดั้งเดิม
Classic Control เหมาะกับผู้เล่นทั้งเก่าและใหม่ โดยจะมีปุ่มสำหรับโจมตีทั้งหมด 6 ปุ่ม
ต่อยเบา (LP) ต่อยกลาง (MP) ต่อยหนัก (HP)
เตะเบา (LK) เตะกลาง (MK) เตะหนัก (HK)
ทั้งหมดมี 6 ปุ่ม สามารถใช้งานได้ตามความหมาะสม และสถานการณ์ต่างๆ แน่นอนว่านอกจากการโจมตีปกติ ยังมีท่า Special Move ของแต่ละตัวละคร ที่จะต้องกด ควง หรือกดค้าง ตามปกติอีกด้วย
เข่น ล่าง+ เฉียงล่างหน้า +หน้า+ ต่อยหนัก ⬇️↘️➡️ + HP ของ RYU จะเป็นท่าปล่อยพลังฮาโดเคน
และการกดแมคานิกใหม่ในภาค 6 นี้ก็ต้องกดแมนวลทั้งหมด หรืออาจจะสามารถตั้งค่าปุ่มร่วมได้ตามถนัด หากมีปุ่มบนจอยเหลือ ซึ่งปกติบนจอยจะว่างอีก 2 ปุ่ม แต่ทว่า แมคานิกในการกดปุ่มใช้งานมี 3 แบบ คือ จับทุ่ม กด LP+LK, Drive Parry กด MP+MK และ Drive Impact กด HP+HK อาจจะใช้ทั้งหมด 8 ปุ่ม โดยการตั้งค่าตามถนัด
ข้อดี สามารถประยุกต์ใช้งานท่าต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง ตามความเข้าใจ และการฝึกซ้อม ทุกปุ่มเป็นอิสระ คอมโบใช้ได้ตามต้องการ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทางด้านการควบคุม
ข้อสังเกตุ ข้อด้อย การควบคุมอิสระก็จริงแต่ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่น หากผู้เล่นไม่ถนัดการออกท่า Special Move ในการควงหรือกดค้าง ก็ทำให้เสียเปรียบในการต่อสู้ ขาดความแม่นยำ ทำให้ขาดไม่มั่นใจในการต่อสู้ หรือการต่อคอมโบอาจจะยากไปสำหรับผู้เล่นบางกลุ่ม
2. Modern Control การควบคุมยุคใหม่
เป็นการควบคุมแบบใหม่ในเกม Street Fighter ภาค 6 ซึ่งจริงๆ การควบคุมลักษณะนี้ เคยถูกนำมาให้ผู้เล่นใช้งานกันแล้วใน Street Fighter IV Mobile Edition ซึ่งในภาค 6 เวอร์ชั่น Console/PC ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับการควบคุมแบบง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้เล่น ทั้งมือใหม่ และมือเก่าที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ หรือลับฝีมือในอีกหนึ่งรูปแบบการควบคุม โดยจะใช้7การควบคุมทั้งหมด 7 ปุ่ม รวมแมคานิกใหม่ที่มีเรียบร้อยแล้ว
โจมตีเบา (LA) แทนด้วยสีฟ้า, โจมตีกลาง (MA) แทนด้วยสีเหลือ, โจมตีหนัก (HA) แทนด้วยสีแดง
โจมตีพิเศษ (SP), Drive Parry (DP), Drive Impact (DI) และปุ่ Assist (Auto)
อาจจะเห็นว่าไม่มีปุ่มจับทุ่ม ซึ่งปกติจะถูกต้องค่าดีฟอล์ทเอาไว้อยู่แล้ว โดยปุ่ม LT หรือกดเองได้โดยกด LA+MA
ซึ่งความพิเศษ และความง่ายก็คือ การกดท่า Special Move ออกท่าด้วยการกดเพียงปุ่ม SP เพียงปุ่มเดียว ถ้าต้องการออกท่าต่างกัน ก็ให้กดทิศทาง ซึ่ง ส่วนมากจะเป็นการกด ⬇️ ➡️ หรือ ⬅️ + SP เท่านั้น ก็จะเป็นการออกท่า โชริวเคน ดองกี้คิีก หรือ ทัทซึมากิ ก็ตาม และการกดท่า Super Art รวมถึง Critical Art ที่เรามักเรียกว่าท่าไม้ตายใหญ่ ก็เพียงกดปุ่มSP+HA หรือปุ่มทิศทาง ตามด้วย SP+HA(โจมตีหนัก) เท่านั้น ส่วนใหญ่ท่าไม้ตายจะมีตัวละคร 3 ท่า
การทำคอมโบแบบง่าย ก็เพียงกดปุ่ม Assit และกดปุ่มโจมตีต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นคอมโบแบบง่าย ตามปุ่มต่างๆ ที่กด แต่จะมิกซ์ปุ่มโจมตีไม่ได้ กล่าวคือ กดปุ่ม Assist + โจมตีกลาง ก็ต้องกด โจมตีกลางไปจนจบคอมโบนั่นเอง
ข้อดี ไม่ต้องกดควง ท่าพิเศษกดออกง่าย สามารถพันนิชได้ทันที มีความแม่นยำ ควบคุมได้ง่าย สะดวก มีคอมโบพื้นฐานให้เล่นได้เลย เพียงกดปุ่ม Assist ค้างไว้ ตามด้วยปุ่มโจมตีที่ต้องการ
ข้อสังเกตุ การโจมตีแบบธรรมดาบางอย่างจะหายไป เนื่องจาก การโจมตีแบบควบคุมปกติมี 6 ปุ่ม แต่ปุ่มโจมตีของโหมดนี้มี 3 ปุ่ม ถ้ารวม Assist+ ปุ่มโจมตี ก็จะเป็น 6 รูปแบบการโจมตีแบบปกติ(กรณีตัวละครยืนอยู่) หรือที่เรียกวา่ท่า Normal ซึ่งในแต่ละตัวละครจะมีการโจมตีหลากหลายรูปแบบ ทำให้รูปแบบการโจมตีที่บางครั้ง มองว่าเป็นข้อดีอาจจะหายไป รวมถึงท่า Special Move บางท่าด้วย
เนื่องจากการกดและการควบคุมที่ง่ายขึ้น ก็จะสูญเสียเรื่อง damage ลงไป โดยการโจมตีต่างๆ หากโดนคู่ต่อสู้และได้รับความเสียหาย damage ที่คู่ต่อสู้จะได้รับ จะลดลงประมาณ 5-10% เมื่อเทียบกับการควบคุมแบบ Classice
เป็นรายละเอียดในการควบคุม สำหรับเกม Street Fighter 6 ที่เรียกว่าน่าเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับทั้งสองรูปแบบ เพราะสามารถนำไปใช้เล่นออนไลน์ได้ และแน่นอนว่าอนุญาตในการแข่งขันต่างๆ อีกด้วย
3. Dynamic Control การควบคุมโดยมี AI เข้ามาช่วยเหลือในการตัดสินใจ
ดังนั้นเราจะไม่พูดถึง Dynamic Control ที่ดูจะเล่นง่ายที่สุด แต่ก็ขาดรายละเอียดท่าต่างๆ ไปเยอะ เล่นสนุกได้ แต่ก็นำมาใช้จริงจังคงไม่ไหว ซึ่งมีการนำ AI มาจัดสินใจว่าจะทำอะไร เพียงเรากดแค่ปุ่มเดียวเท่านั้น บางครั้ง AI ก็จะกระโดดให้โดยที่เราไม่ต้องกดกระโดดเลย
ซึ่งการควบคุมแบบนี้อย่างที่เกริ่นไป เหมาะกับการเล่นที่ไม่ซีเรียส เล่นโดยผู้เล่นมือใหม่ หรือไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อน แค่แนะนำว่าปุ่มใด ทำอะไรบ้าง คร่าวๆ ก็พอให้เล่นแบบสนุกสนานได้ รวมถึงเด็กน้อยที่อยู่ภายในบ้านให้พอรู้จักกับการเล่นเกมต่อสู้ ได้สัมผัสและสนุกไปด้วยกันได้และเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หากใครสนใจ เรื่องการควบคุม อยากดูเป็นวีดีโอ ติดตามได้ที่ @happytechgamer1593 บน Youtube กันได้เลย อย่าลืมกด Subscribe และกด like หรือคอมมเม้นต์เป็นกำลังใจกันได้ครับ
ติดตามได้ที่
Youtube @happytechgamer1593
facebook @happytechgamer
Twitter @happytechgamer
Tiktok @hpaaytechgamer