พื้นฐาน Street Fighter 6 ตอนที่ 3 Drive System แมคคานิกใหม่ในเกม
มาต่อกันในตอนที่ 3 สำหรับพื้นฐาน ซึ่งจริงๆ ในเกม Street Fighter 6 จะมีแนะนำรายละเอียด เอาไว้เบื้องต้นอยู่แล้ว แต่หากใครชอบอ่าน หรือไม่ได้เปิดเกมตลอดเวลา ก็แวะมาได้นะ โดยตอนนี้จะเป็นการแนะนำระบบ Drive System หรือระบบไดร์ฟ ซึ่งเป็นแมคนิคใหม่ในเกม มาทำความรู้จักกัน
ในเกม Street Fighter 6 มีระบบใหม่ ซึ่งไม่เคยมีในภาคก่อนๆ เข้ามา ทำให้ต้องเรียนรู้ใหม่ ซึ่งจะเปรียบเหมือนเป็นธรรมเนียมของเกมซีรีส์นี้ไปแล้ว เมื่อเปลี่ยนภาคทุกครั้งก็จะมีระบบไม่เหมือนเดิม ทำให้ผู้เล่นต้องปรับเปลี่ยนการเล่นตามเกมที่ออกมา ซึ่งในบางภาคก็อาจจะไม่ตรงกับลักษณะการเล่นหรือความถนัด หรือจริตของผู้เล่น อย่างเช่นภาค 5่ ทำให้ผู้เล่นจำนวนนึงไม่เล่นต่อ ซึ่งในภาค 6 นั้น ระบบใหม่ที่ว่านี้ก็คือ Drive System เป็นระบบที่มีส่วนสำคัญมากในการทำเกม และการวางแผน จริงๆ ก็แอบคล้ายกับภาค 4 อยู่นิดๆ
Drive System
Drive หรือการขับเคลื่อนในเกม เป็นคำศัพท์ที่เหมาะสมจริงๆ สำหรับ Street Fighter 6 ซึ่งเป็นระบบใหม่เลยก็ว่าได้ แม้ว่าอาจจะมีความคล้ายกับภาคก่อนอยู่บ้าง โดยทั้งหมดมี 5 รูปแบบ
1. Overdrive (OD) เป็นรูปแบบนึงที่เรียกว่าสำคัญไม่แพ้รูปแบบอื่นๆ เรียกว่าเป็นพื้นฐานของเกมซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้ อาจจะเรียกชื่อต่างๆ กันไป เช่นภาคล่าสุดคือ EX แต่ลักษณะการใช้งานหรือการโจมตีจะเหมือนกัน ซึ่งก็คือ การอัปเกรด Special Move ให้รุนแรงมากขึ้น อาทิเช่น ฮาโดเคนของ Ryu หรือ Ken ด้วยการกด Special Move ปกติ จะกดแค่ ⬇️↘️➡️ + HP แต่สำหรับ Overdrive จะกด ⬇️↘️➡️ + ปุ่มต่อยสองปุ่มพร้อมกัน เช่น (MP+HP) สำหรับกรณีการควบคุมแบบคลาสสิคนะ แต่ถ้าควบคุมแบบ Modern จะกด ปุ่ม Assit + SP เท่านั้น ใช้เกจ 2 Drive เกจ
แน่นอนว่าทำให้ท่า Special Move รุนแรงขึ้น และในบางตัวละครอาจจะมีลักษณะที่มีรูปแบบการโจมตีที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะได้จำนวน Hit เพิ่มขึ้น และแน่นอนว่า ลดพลังคู่ต่อสู้ได้มากขึ้น อีกหนึ่งอย่างก็คือมักจะเอาไว้สำหรับทำคอมโบต่อจาก Overdrive ได้
2. Drive Impact (DI) เป็นระบบใหม่ ที่เรียกว่าเมื่อโดนแล้วจะมีผลทำให้อ่อนแรงลงชั่วคราว และอยู่ในสถานะที่ป้องกันไม่ได้ ตัวละครที่โดนจะกระเด็นถอยไปด้านหลัง หากป้องกันจะถอยหลังไปไม่มาก แต่ถ้าโดนเต็มๆ ก็จะกระเด็นไปไกล แน่นอนว่าการกระเด็นไปไกลนี่ล่ะ จะทำให้ตัวเราเมื่อโดน DI แล้วลอยไปชนกับกำแพง ก็จะทำให้ ตัวติดกำแพง และอาจจะโดนคอมโบต่อก็เป็นไปได้ หรือกรณีที่หากคู่ต่อสู้โจมตีแล้วเรา DI สวนทัน คู่ต่อสู้ก็จะโดนพันนิช ซึ่งตัวละครจะค่อยๆ เข่าอ่อนและ ล้มลงกับพื้น ระหว่างนั้นก็ซัดคอมโบใส่ได้อย่างไม่ต้องเกรงใจ วิธีการกดก็คือใช้สองปุ่มกดพร้อมกัน HP+HK หรือถ้า Modern Control จะใช้ปุ่มเดียวคือปุ่ม DI และจะใช้เกจ 1 Drive เกจ
ดูๆ ไปแล้วระบบนี้ ก็เรียกเสียงฮือฮา ได้ในช่วงแรก แต่สำหรับการนำมาใช้งานจริงก็ต้องดูจังหวะกันให้ดีนะครับ
3. Drive Parry (DP) ระบบแพรี่ หรือระบบปัดป้องนั้น อาจจะเรียกว่าเป็นระบบเดิมจากภาค 4 ก็ไม่ผิดนักแต่ลักษณะการใช้งานจะแตกต่างกันสิ้นเชิง Drive Parry สามารถป้องกันการโจมตีได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Super Art ต่างๆ ก็ได้ทั้งหมด จะแพ้อย่างเดียวคือการจับทุ่ม ที่เหลือไม่ว่าจะทำยังไง ก็เจาะไม่เข้าอย่างแน่นอน วิธีการกด คือกดสองปุ่มพร้อมกัน MP+MK หรือปุ่ม DP สำหรับ Modern Control สามารถกดค้างและปล่อยเวลาใดก็ได้ เริ่มต้นสำหรับ Drive Parry จะใช้ ครึ่งนึงเท่านั้น แต่ถ้ากดค้างเอาไว้ก็จะลดลงตามเวลาที่กด หากคู่ต่อสู้โจมตีและเรา Parry ได้ เกจ drive ก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าเราป้องกันได้นั่นเอง และยังไปผสมกับ Drive Rush ได้อีกด้วย
ทริกเล็กๆ หากเราแพรี่ ได้ตรงกับจังหวะโจมตี จะเรียกว่า Perfect Drvie Parry ซึ่งจะสามารถโจมตีสวนคู่ต่อสู้กลับได้ทันที ในขณะที่ Drive Parry จะได้แค่ป้องกันเพียงอย่างเดียว กล่าวคือ เป็นเฟรมบวกของ Perfect Drive Parry จะทำให้เราได้เปรียบในทันที ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะ และรีแอคของเราจะทันไหม เพราะ Perfect Drvie Parry หากป้องกันตรงจังหวะการโจมตีอาทิเช่น การโจมตีปกติ จะมีอะนิเมชั่นหยุดให้เรารีแอคได้ทัน แต่หากเป็นลูกพลังต่างๆ หรือจังหวะ Overdrive ที่มีการโจมตีหลาย hit จะมีอะนิเมชั่นหยุดแป๊ปเดียว ไม่นานเหมือนกับการโจมตีแบบปกติ ซึ่งเราต้องรีแอคอย่างรวดเร็วในชั่วเสี้ยววินาที แต่นิดเดียวคือพลังการโจมตีจะเบากว่าปกติประมาณ 50% นะ
4. Drive Rush (DR) ระบบรัช หรือเร่งความเร็วชั่วชณะ เป็นการผสมการโจมตี โดยการวิ่งไปข้างหน้า หรือตามชื่อก็คือรัชเข้าไปหาคู่ต่อสู้ และสามารถเลือกโจมตีได้อย่างรวมเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ หรือจะเป็นท่า Special Move หรือจะเป็นท่า Super Art หรือแม้กระทั่ง Drive Parry หรือ Drive Impact หรือไม่ทำอะไรเลย ก็ได้ โดยการกดนั้น จะมี 2 รูปแบบ คือ กดจากท่า Drive Parry MP+MK หลังจากนั้นให้กด ➡️➡️ จะกลายเป็น Drive Rush ซึ่งจะใช้ เพียง 1 Drive เกจเท่านั้น และหากเราใช้การโจมตีปกติ หรือที่เรียกว่า normal ใดๆ ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะกัน หรือเราโจมตีโดน และกด ➡️➡️ จะสามารถวิ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้เพื่อทำคอมโบต่อได้ทันทีเช่นกัน แต่ลักษณะนี้จะใช้เกจถึง 3 Drive เกจเลยทีเดียว ดังนั้น แน่นอนว่าในการควมคุมแบบ Modren ก็ใช้การกด ➡️➡️ เช่นเดียวกัน
โดยมีทริกเล็กๆ หากกด ➡️ เอาไว้ก่อนและกด MP+MK และ ➡️ อีกหนึ่งครั้ง จะทำให้ออก Drive Rush เร็วกว่าเดิมโดยที่ตัวละครจะยังไม่มีอนิเมชั่น Drive Parry ออกมา
5. Drive Reversal ระบบรีเวิร์ส ที่เอาไว้ใช้แก้ไขการโจมตีรัวๆ แล้วทำการปัดคู่ต่อสู้ออกไป ซึ่งจะสามารถใช้ได้กับทุกการโจมตี (กรณีที่การโจมตีท่าพิเศษที่มีจำนวน Hit ต่อเนื่อง จะมีสิทธิ์โดนใน Hit ถัดไป เพราะ Reverse จะผลักในจังหวะแรกเท่านั้น) สำหรับการเปลี่ยนสถานการณ์กดดันจากการบุกก็จะคลายไปได้ โดยวิธีกดก็คือ ระหว่างที่เราป้องกัน ให้กด ➡️พร้อม HP+HK ไปพร้อมๆ กันในครั้งเดียว โดยจะใช้เกจ 2 Drvie เกจ ส่วน การควบคุมแบบ Modren กดปุ่ม ➡️+DI ซึ่ง Drive Reversal ก็อาจจะไม่ใช่ของใหม่ซะทีเดียว เพราะหลายภาคก่อนหน้านี้ก็เคยมีใช้งาน แต่อาจจะมีวิธีการกดที่แตกต่างกัน
ทริกเล็กๆ ก็คือ หากเราต้องการประหยัด Drive เกจ เราสามารถที่จะทำ Drive Reversal จากการทำ Drive Parry ได้ ซึ่งให้ทำ Drive Parry และกด Drive Reversal ทันที จะเสียเกจเพียง 1 Drive เกจ เท่านั้น
Drive System ก็เรียกว่าเป็นการนำ Drive เกจจำนวน 6 เกจ มาบริหารจัดการในการเล่นแต่ละเกม และสามารถใช้ได้ตั้งแต่ต้นเกม และจะรีเซ็ตเต็มทุกครั้งหลังจากเริ่มยกใหม่ และจะเพิ่มเมื่อเราโจมตีคู่ต่อสู้ หรือมีการป้องกันด้วย Drive Parry แต่จะลดเมื่อเราป้องกันการโจมตีไปเรื่อยๆ เช่นกัน และเมื่อ Drive เกจหมด จากการใช้แมคานิก Drive ใหม่ รวมถึงป้องกันในระหว่างเล่น จะทำให้ตัวละครจะอยู่ในสถานะ Burn Out ซึ่งจะมีผลตามที่เคยบอกรายละเอียดเอาไว้ใน ตอนที่ 2 <= สามารถอ่านย้อนกลับไปได้นะครับ
ดูคลิปได้ที่นี่ นี่ @happytechgamer1593 นะครับ
อ่านระบบพื้นฐาน Street Fighter 6 ได้ตามลิงค์ด้านล่าง
พื้นฐาน Street Fighter 6 ตอนที่ 1 ระบบการควบคุม
พื้นฐาน Street Fighter 6 ตอนที่ 2 เกจพลัง
สั่งจองเกม Street Fighter 6 PS5 ได้ที่ https://shope.ee/9zRgwdDmMhจอยโยก จอย Arcade Exclusive Street Fighter 6 สั่งจองได้ที่ https://shope.ee/8zYstnfc8G
ไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น