ณ วันนี้สำหรับบน Android Phone ในปัจจุบัน คงหาใครเทียมยากกับสเปคของ LG Optimus 2X ที่เราเคยเห็นกันในงาน CES รวมถึง TME ในบ้านเราปีนี้ ที่ LG จับมาโชว์เป็นครั้งที่ 2 ในโลกเลยทีเดียว และวันนี้มันก็มาอยู่ในมือผมแล้ว โดยทาง LG บอกว่ามีไม่กี่คนในเอเชียที่ได้จับ และทดสอบ และแน่นอนว่า เป็น 1 ใน 10 คนแรกในบรรดาเว็บไซด์หรือบล็อกเกอร์ในประเทศไทยด้วย ภูมิใจดีไหมเนี่ย ยังไงวันนี้ก็มาดูส่วนของตัวเครื่องกันก่อน ของมันแรงใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวจัดให้เต็มๆ ขอบคุณ LG Electronics Thailand ที่ให้เครื่องมาทดสอบครับ |
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้างกับของแรงที่ใช้ CPU อินเทรนด์ล่าสุดจาก nvidia Tegra2 ซึ่งเป็น dual-core นั่นเปรียบเสมือนมี cpu 2 ตัวช่วยกันทำงาน แต่งานในปัจจุบันบนมือถือเรามันจำเป็นถึงขนาดนั้นไหม? น่าคิด แต่ไม่รู้ล่ะ ยังไงขอแรงไว้ก่อน โดยงานนี้ ขอจับมาโชว์กันให้เต็มตาเต็มใจ พร้อมเทียบกับมวยผิดรุ่นกันด้วย จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก iPhone4 ด้วยเทคโนโลยีและดีไซน์จาก Apple เมื่อ 1 ปีก่อน ดูสิว่าจะกันสักแค่ไหนกัน
ก่อนอื่นเอาสเปคมาแปะไว้หน่อย
Basic Specification | |
Type | Bar phone |
RF Band | 850/900/1800/1900 – Edge 900/1700/2100 – HSPA 7.2/5.76 |
Battery, Max (mAh) | 1,500 |
Display | TFT LCD WVGA 4.0 Capacitive Touchscreen |
Vibration | Yes |
SIM Toolkit | Yes |
Data/Fax | Yes / Yes |
Dimension: L x W x D (mm) | 122.4 x 64.2 x 9.9 |
Powered by Android™ | Yes |
Messaging | |
SMS / EMS / MMS | Yes / Yes / Yes |
E Mail | Yes - (IMAP4 / SMTP / POP3) |
Connectivity | |
Wi-Fi | Yes |
DLNA | V1.5 DMS, DMC, DMP, Push Controller |
Audio / Video | |
Camera | Primary: 8MP (AF, LED), Secondary: 1.3MP |
Audio Codec | AAC(+), MP3, WMA, Poly |
Video Codec | MPEG4, H263, H.264, DivX, WMV |
PIM | |
Scheduler/Alarm | Yes / Yes |
Phonebook (# of names) | Yes |
Advanced Features | |
FM Radio | Yes |
Camera | Yes |
Camera Resolution (MP) | 8 |
Internal Memory | 8GB |
External Memory | Micro SD (up to 32GB) |
A-GPS Navigation | Yes |
MP3 | Yes |
Bluetooth | Yes |
USB | Yes |
Touch Screen | Yes |
3.5 Audio Jack | Yes |
ก่อนเลย จากความรู้สึกที่ได้จับครั้งแรก รู้สึกว่าวัดสุการประกอบ และการจัดทำเจ้า Optimus 2X นั้นไม่ใช่ธรรมดา ตั้งแต่รุ่นก่อนหน้าอย่าง Optimus One แล้ว มีน้ำหนักและขนาดพอดีมือ ขนาดผมมือเล็กๆ ด้วยหน้าจอ 4 นิ้วและตัวเครื่องที่ใหญ่ยังให้ความมั่นใจในการจับ ไม่เหมือนของเพื่อน ที่เบากว่ากันเยอะเลย (คงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพื่อนคนไหนและรุ่นไหนนะ เพราะตอนนี้ในเว็บก็ยังแรงอยู่ไม่น้อย )
ดูรูปร่างหน้าตาไม่อยากจะบอกว่ามันช่างคล้าย iPhone 4 เหลือเกิน คล้ายกันจนเกินไป
ด้านหน้าเต็มๆ กับ dual-core ขอบอกว่าเร็วและแรงจริงครับ เขาจัดมาเต็ม ไว้ลองดูวีดีโอภาค software ก็แล้วกัน ลื่นปรี๊ด
ด้านบน จะมีไฟแสดงสถานะทางด้านซ้ายมือ ส่วนกล้องด้านหน้าให้มา 1.3 ล้านตามสเปค ไม่ขี้เหร่
ด้านล่างมีลำโพงสองด้าน ตรงกลางเป็นพอร์ท microUSB ดีไซน์คล้ายไหมครับ
ด้านข้างเป็นปุ่มเร่ง-ลดเสียง ตามสไตล์ของเครื่องเกือบทุกรุ่น
ความบางก็ใช่ว่าจะบางมาก ตรงส่วนหัวจะนูนขึ้นมาหน่อย จากส่วนของกล้อง
ด้านบนมีปุ่ม ปิด-เปิด เครื่อง และล็อคเครื่องได้ด้วย ตรงกลางเป็นพอร์ท microHDMI ยังไม่แน่ใจว่าในแพ็คเกจจะมีแถมให้ด้วยหรือเปล่า และขวาสุดเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังมาตรฐานสากล 3.5 มม.
อีกด้านนึงเรียบร้อยดี
สวยงามจริงๆ กับขอบอลูมิเนียมสีเทา ให้ความรู้สึกที่แข็งแรง
เอามาให้ดูกันหลายๆ มุม
เห็นของที่หน้าจอไหมครับ มันจะเป็นกระจกนูนขึ้นมา ไม่ได้เป็นระนาบเดียวกับตัวเครื่องเสียทีเดียว ไม่รู้ว่าออกแบบมาให้รับกับการใช้งานหรือเปล่า แต่หน้าจอกระจกแข็งแรงดี ไม่มีรอยขูดขีดง่าย
มาดูด้านหลังบ้าง เห็นแล้วใช่ไหมครับ ว่าบริเวณกล้องจะนูนขึ้นมานิดนึงสำหรับรับกับพื้น
ลองมองในมุมนี้ จะเห็นชัดขึ้น สำหรับกล้องที่นูนขึ้นมา
ด้านบนกับกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล พลังของ 8 ล้านนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ กล้องในยุคหน้าบน Android คงสุดยอดแน่นอน รวมถึงบน Optimus 2X ด้วย พร้อม flash ในตัว ระยะก็เหมือนเคยอย่าหวังมาก แค่ช่วยในระยะ 1-3 เมตรเท่านั้น
สกรีน With Google แค่นี้จะครองโลกไม่พอหรือยังไง บน Android ยังต้องประกาศด้วย ยังไเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นของ Google
ด้านล่างแปะ LG คอนเซ็ปท์เค้าคือ Life's Good ไม่รู้จริงหรือเปล่า ตั้งแต่ทดสอบ Optimus 2X มานี่ ยังไม่มีอะไรในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงมากนัก สงสัยต้องลองใช้งานกันยาวๆ ถึงจะรู้ ว่าแต่จะให้ถือยาวๆ ได้ไหมล่ะครับคุณ LG
ขนาดแบตเตอรี่คงเป็นอีกประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากสเปคสุดโต่งแบบนี้ แล้วแบตขนาด 1500 mAh ที่ถือว่าเยอะแล้ว จะพอหรือ? ขอบอกว่าไม่พอแน่นอน ก็พี่ให้มาเยอะ ผมก็ใช้เยอะสิ จะไปพออะไร
ด้านบนสำหรับใส่ SIM และ microSD ตัว SIM จะถูกล็อคด้วยแบตโดยอัตโนมัติ ทำให้บางครั้งอาจจะมีปัญหาเรื่องหน้าคอนแทคไม่สัมผัส บางทีอาจจะมีผลกับสัญญาณโทรศัพท์ อันนี้ก็จะหมดปัญหาไป และที่ใส่ microSD ที่ไม่จำเป็นต้องถอดแบตเพราะอยู่ด้านข้าง ดึงออกมาใช้งานได้เลย แค่แกะฝาหลังเท่านั้น นับว่าเป็นข้อดีที่ออกแบบมาในหลายรุ่นรวมถึง Optimus 2X ด้วย
ตัวแบตจะมีเขี้ยวล็อคอยู่ตรงด้านบน ทำให้แน่ใจว่าใส่แบตแล้วแน่น มั่นใจได้
นิดนึงก็คือฝากหลังที่เป็นพลาสติกบางและด้าน เรื่องเป็นรอยนิ้วมือคงไม่ต้องห่วง อันนี้สบายๆ เรื่องรอย แต่มันบางไปหน่อยเหมือนกับของเพื่อนอีกแบรนด์นึง ซึ่งผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแข็งแรง ซึ่งบางแบรนด์ดังเค้าออกแบบมาแบบแข็งทั้งตัว แต่ก็ไม่ใช่สาระสำคัญสักเท่าไหร่
คงเป็นภาพรวมๆ ของ LG Optimus 2X ในส่วนของ Hardware ที่รูปร่างหน้าตาได้ใจ จริงๆสาระสำคัญมันอยู่ที่ความเร็วและแรงต่างหาก แต่เรื่องดีไซน์ก็ใช่ว่าจะไม่สำคัญ ลองเอาไปให้คนใช้งาน user จริงๆ ที่เป็น ญ ดู เค้าก็ว่ามันแจ่มมาก อยากได้แต่พอรู้ระดับราคาก็ต้องถอยไปตามระเบียบ แต่ไม่แน่นะ ขอบอกว่า LG Optimus 2X รู้ความต้องการของคุณผู้หญิงเรื่องความสวยความงามด้วย มีแอพ mirror สำหรับช่วยในการแต่งกาย หน้าตา ดูรูปร่าง โดยไม่ต้องพกกระจกอีกต่อไป ไว้มาดูในช่วงของ software นะครับ
อ่ะ ยังไม่จบครับ ที่พลาดไม่ได้คือ เอามาชนกับ iPhone 4 ลองมาดูเปรียบเทียบกันดีกว่า อันนี้เน้นด้าน Hardware ล้วนๆ
มาแล้ว ชนกับ iPhone 4 ที่เป็นมวยคนละรุ่น เนื่องจากต้องไปชนกับ iPhone 5 ต่างหาก ถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ถ้าเทียบกับสเปค คงไม่ต้องบอกเรื่องขนาด จากภาพตอบได้ชัดเจน ว่า Optimus 2X ชนะไปขาดลอยเรื่องความใหญ่ (จริงๆ มันต้องเล็กถึงจะดีใช่ไหมล่ะ)
ลองดูในแนวนอนกันบ้างกับขนาดความหนา
ที่เห็นชัดๆ นั่นคือ Optimus 2X เมื่อเทียบกับ iPhone 4 จะเห็นว่าด้านบนของตัวเครื่องจะสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัดจากฐานรองตัวกล้องที่นูนขึ้นมา
อันนี้เป็นภาพชัดๆ
จับเอามาวัดกันให้ดูอีกรอบ จริงๆ แทบจะไม่ต่างสักเท่าไหร่ แตกต่างกันแค่ไม่กี่มิล
ลองเทียบขนาดซ้อนดูจากด้านหน้าดูบ้าง สำหรับผมปกติ iPhone 4 จะใส่ซองซึ่งมีความหนาพอสมควร มันก็ไม่ต่างจากการถือ Optimus 2X สักเท่าไหร่นักเรื่องขนาด และน้ำหนัก
ด้านล่างที่ดีไซน์มันช่างคล้ายเหลือเกิน สงสัยว่าทำไมไม่มีน็อทให้เหมือนกันไปเลยนะ
ด้านบนที่ตอนนี้ LG Optimus 2X ล้ำกว่ามีพอร์ท micoHDMI สำหรับต่อออกหน้าจอ monitor ได้ง่าย แต่ดีไซน์ เอ่อ ไม่ขอพูดซ้ำก็แล้วกัน
ด้านหลังบ้าน มันคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
หันหลังให้ดู เลือกอันไหนดีนะ เล่นโชว์กันให้ดูซะขนาดนี้แล้ว
ที่หนาก็คือฝาที่โค้งขึ้นมานั่นล่ะ
และนี่คือการนำมาเปรียบเทียบแบบมวยคนละชั้นกัน ระหว่าง LG Optimus 2X กับ iPhone 4 สรุปว่าด้านดีไซน์ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ (ก็พี่เล่นเอาคอนเซ็ปท์มาซะเยอะขนาดนั้น)
เอาวีดีโอรีวิวมาฝากด้วย
สรุปกันสักหน่อย
ด้วยขนาด น้ำหนัก และดีไซน์ ไม่นับรวมสเปค เรียกว่าไม่หวือหวามากนัก โดยรวมหากให้คะแนนอยู่ที่ 7-8 คะแนน แต่ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทาน ต่างจากบางรุ่นที่จับดูแล้วรู้ว่ามันต้องระวังให้มาก แต่สำหรับ Optimus 2X แล้วเรื่องหน้าจอที่เป็นจอกระจก แข็ง เป็นรอยขูดขีดได้ยาก จากการพกพาไม่ว่าจะเป็นการใส่ในกระเป๋ากางเกง เป้ หรืออื่นๆ ริ้วรอยที่หน้าจอยังไม่เกิด ถ้าเป็นรุ่นอื่น ล่ะหน้าจอเป็นรอยไปเรียบร้อยแล้ว ถ้านับรวมเรื่องสเปค คงไม่ต้องบอกว่าในนาทีนี้ NVidia Tegra2 คงเป็นสเปคที่สุดยอด ด้วยความเร็ว 1GHz และ dual-core ที่ช่วยให้การทำงานราบลื่นมาก มีคนบอกว่ามาลองใช้ LG Optimus 2X แล้วพอกลับไปใช้ iPhone มันไม่ให้ลื่นเท่า เนื่องจากสเปคที่สูงซะขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกมส์ มัลติมีเดีย และอื่นๆ ทำให้ติดใจมาก แต่ที่กังวลและเป็นจริงๆ ก็คือเรื่องแบต ซึ่งเครื่องที่ทดสอบเป็น Software เวอร์ชั่น 1 ยังมีความไม่สมบูรณ์อยู่บ้าง ทำให้กินแบตเยอะ มักจะมีแอพแอบรันอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็มีผลต่อแบตเตอรี่ แต่จากการพกพาไปใช้ถ่ายรูปในงานคอมมาร์ทที่ผ่านมา ก็อยู่ได้ประมาณครึ่งวัน แต่ทดลองใช้งานอินเตอร์เน็ท ดู youtube ใช้งานแค่ 3 ชั่วโมงก็แทบจะหมดไม่เหลือแล้ว แต่อันนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าใช้งานบนเครือข่าย 3G ของ TOG3G ซึ่งแน่นอนว่ากินแบตมากกว่าใช้เครือข่าย EDGE ปกตินะครับ และขอบอกว่าหากใครต้องการชาร์จผ่าน USB นี่ชาร์จนานสุดๆ ต้องผ่านปลั๊กไฟจะทำเวลาได้ดีกว่าเยอะเลย ลองชาร์จในรถตั้งชั่วโมงขึ้นมาไม่เท่าไหร่เอง เอาไว้มาต่อด้าน Software กันครับ และส่วนอื่นๆ ที่ไม่พลาดก็คือ การทดสอบใช้กับเกมส์ที่รีดพลังของ Nvidia Tegra2 ออกมา ดูสิว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงต่อใช้งานร่วมกับ LED TV ผ่าน port HDMI ไว้เจอกันครั้งหน้าครับ
ขอบคุณ LG Electronics Thailand ที่ให้เครื่องมาทดสอบครับ