วันนี้ขอมาตามความชอบหน่อย wearable ที่ยังคงความ hot อยู่ในที คือเจ้า Xiaomi Mi bannd 2 นี่ล่ะ หลังจากที่ตามใช้งานมาได้สักปีกว่าๆ จากที่รุ่นแรกออกมา Mi band ที่ได้รับความอึดกว่าใครในปฐพี จนมา Mi band 1S ที่ต้องให้ฉายาว่า ออกมาทำไมอะไรเนี่ย เพราะเจ้า Mi band 2 ตามออกมาในระยะเวลาไม่นานนัก แถมมีหน้าจอแสดงผลอีกต่างหาก มาชมความต่าง พร้อมกับการใช้งานของเจ้า Xiaomi Mi Band 2 กันครับ จุ๊ๆ.. อย่าเอ็ดไปนะ มี code ส่วนลดด้วย กระซิบดังๆ ว่ามีจำนวนจำกัดนะ
อย่างที่เกริ่นครับว่ามีส่วนลด โดยเจ้า Xiaomi Mi Band 2 ก็ยังไม่มีใครเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา มีแต่หิ้วๆ และหิ้ว ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็อาจจะได้ถูกหรือแพงก็ว่ากันไป แต่ถ้าอ่านจนจบก็จะพบเจอ code ลับซ่อนอยู่ในบทความล่ะครับ ฮาา (ถ้าใครรู้มุกก็จะเลื่อนไปท้ายบทความทันที) อันนี้ก็แล้วแต่ล่ะนะ แต่อย่างว่า Xiaomi Mi Band 2 มีการพัฒนาจากรุ่นเดิมๆ ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดก็คือหน้าจอ ที่แสดงผลจำนวนก้าว ระยะทางหรืออัตราการเต้นของหัวใจได้เลย สะดวกมากมาย ไม่ต้องมาหยิบ Smartphone ขึ้นมาดูอีกต่อไป แถมการวัด heart rate ก็ทำได้ง่ายๆ แต่เสียอย่างเดียวคือไม่สามารถวัดแบบต่อเนื่องทั้งวันได้
จริงๆ ทางคุณ nuart ก็แกะกล่องและรีวิวไปแล้วในเว็บเรา ผมจะมารวบรัดตัดตอนกับความรู้สึกและการใช้งานในสไตล์ผมก็แล้วกันนะครับ
คือในกล่องก็ยังมาในสไตล์เดิมๆ ขนาดกล่องก็พอๆ กับของเดิม แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรียกว่ายังคงคอนเซ็ปท์ตามสไตล์ Mi Band ได้ดีเลยล่ะ
มาดูเรื่องของดีไซน์และขนาดกันครับ เอามาวัดกับเจ้า Mi Band 1S เลย เสียดายที่เจ้า Mi Band ตัวแรกขายไปแล้ว เนื่องจากไม่รู้จะใส่ทำไมหลายอัน เลยไม่มีเอามาเทียบให้ดู แต่ขนาด Mi Band ตัวแรกนี่ไม่ต่างจาก 1S สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็น Mi Band 2 นี่ขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่ามีหน้าจอและปุ่มกดนี่ล่ะที่เพิ่มเข้ามา
sensor ที่ใช้วัด heart rate ดูจากด้านหลังก็จะเห็นว่ามีการพัฒนาหรือเปลี่ยนรูปแบบที่ใช้ด้วย อันนี้ก็วัดได้แม่นยำมากขึ้นนะ
แต่ถึงดีไซน์จะเหมือนกัน แต่ขนาดต่างกัน ดังนั้นการใช้งานชาร์จร่วมกันทำไม่ได้นะ ไม่เหมือนก่อนหน้า ที่ยังพอใช้งานร่วมกันได้แต่อาจจะฟิตไปนิด แต่สำหรับ Mi Band 2 จะไปหายืมสายชาร์จจากเพื่อนไม่ได้แล้ว
สายรัดข้อมือ หรือ wristband ยังคงเป็นสีดำ และมีสีอื่นๆ ให้เลือกซื้อ แนะนำว่าอย่าซื้อของปลอมเพราะวัสดุที่ใช้ไม่เหมือนกัน รุ่นก่อนหน้าจะรู้เลยว่าหลุดตกหล่น หายกันเพียบ และบน Mi Band 2 เอง สายมีความยืดหยุ่นดีกว่ารุ่นก่อนๆ ที่สายค่อนข้างแข็ง และความยืดหยุ่นนี้ทำให้ใส่สบายขึ้น และไม่แค่นั้นนะ ตัวรัดสายก็ออกแบบมาได้ดี ใส่แล้วรู้สึกแน่นขึ้นกว่าเดิมอีก
ส่วนอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรต่างกันมาก
การแสดงผลอันนี้ล่ะที่มีผลอย่างมากในการใช้งาน เพราะว่าเวลาชาร์จแบต ไม่ต้องมาดู LED ที่จะบอกว่าเต็มไม่เต็ม อันนี้เป็นไอคอนแสดงบนหน้าจอเลย
และหน้าจอก็แสดงผลอย่างอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง heart rate และเวลา ที่เราไม่จำเป็นต้องใส่นาฬิกาอีกต่อไป
ลองใส่ที่ข้อมือ จะเห็นว่าใหญ่กว่ากันไม่มากนัก
แต่ถ้าใส่กับที่มีอยู่ด้วยแล้ว จะพบว่ามันค่อนข้างขัดกันนิดนึงนะ ฮ่ะๆ
การใช้งาน
สำหรับการใช้งานต้องบอกว่าง่ายมาก และยังแนะนำให้ใช้งานบน Android มากกว่า iPhone เนื่องจากแอพมีการอัพเดทอยู่ตลอด และแอพที่ติดตั้งบน official store มักจะอัพเดทช้า ทำให้อาจจะมีบางฟีเจอร์ที่ใช้งานไม่ได้นะครับ
Mi Fit App ที่สามารถดาวโหลดได้ที่นี่ => https://goo.gl/wKhQnX อันนี้สำหรับ play stroe ส่วน iOS หาโหลดบน App Store ได้เลยครับ พอดีไม่ได้ลองบน iOS เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเวอร์ชั่นอัพเดทไปถึงไหนแล้ว
เรื่อง notification สามารถแจ้งเตือนได้หลากหลายการใช้งาน ส่วนใหญ่ก็คงใช้ปลุก หรือไม่ก็แจ้งเตือนการนั่งนานๆ หรือไม่ก็สายเรียกเข้า แต่อย่าลืมว่ายิ่งเปิด notification ก็ยิ่งเปลืองแบตนะ
อีกหนึ่งการใช้งานก็คือการแทรคการออกกำลังกาย ตัวแอพสามารถกดแทรคการวิ่งได้ แน่นอนว่าหากมีการเชื่อมต่อกับ Mi Band 2 ระหว่างทางก็จะมีการเก็บรายงานอัตราการเต้นของหัวใจหรือ heart rate เอาไว้ให้เราด้วย เรื่องของแบตเตอรี่จากที่ใช้งานวิ่งเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ต้องบอกว่าแบตอึดสุดๆ แทบจะไม่ลดเลย อาทิตย์นึงก็คงสบายๆ หายห่วง
ข้อดีก็คือในขณะวิ่ง สามารถยกขึ้นมาดูได้เลยว่า ขณะนั้น heart rate อยู่ระดับไหนแล้ว หัวใจเต้นที่อัตราเท่าไหร่ และเราสามารถควบคุมการเต้นของหัวใจให้พอดีๆ กับ zone ที่เราต้องการ หรือไม่ก็ช่วยให้เราไม่วิ่งหนักจนหัวใจรับไม่ไหว กรณีที่เต้นเกิน 180 ขึ้นไปก็ควรระวังนะครับ ส่วนความแม่นยำ ก็ถือว่าโอเคล่ะ ใช้งานหลายๆ ตัวเทียบกัน ก็ขึ้นในระดับใกล้เคียงกันนะครับ สำหรับ MiBand 2 ส่วนใหญ่จะรองรับการวิ่งล่ะนะ และต้องเปิดใช้งานการวิ่งผ่าน app Mi Fit เท่านั้น
แต่ความไม่สะดวกอย่างนึงเลยก็คือ ไม่สามารถปรับลำดับการแสดงผลได้ ปกติจะแสดงเวลา ระยะทาง แคลลอรี่ที่เผาพลาญ และ อัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งบางทีขณะวิ่งอยู่นั้นอยากจะดูว่าหัวใจเต้นอยู่ที่เท่าไหร่แล้ว? ก็ต้องมากดปุ่มเลื่อนลำดับ ก็เสียเวลาเหมือนกัน คือแนะนำว่าเวลาใช้งาน หากให้ความสำคัญเรื่องของหัวใจ ก็แนะนำให้เปิดแสดงผลเฉพาะอย่างได้เลย โดยไปที่การตั้งค่าการแสดงผล
เรื่องของหัวใจมีสรุปพอเป็นข้อมูลได้ ในขณะออกกำลังกายจะมีการจับแบบเรียลไทม์ หรือตลอดเวลา แต่ทว่าระหว่างวันล่ะ? ระหว่างวันนี่ล่ะที่ปกติรุ่นก่อนหน้านี้และหลายๆ รุ่นในตลาด อยากรู้การเต้นของหัวใจที ก็ต้องวัดทีนึง ซึ่งไม่สะดวก เจ้า Mi Band 2 ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นล่ะ
การดูอัตราการเต้นของหัวใจในระหว่างวัน ต้องยกข้อมือขึ้นมาวัดเป็นครั้งๆ ไป ปกติเจ้า Mi Band 1S จะต้องกดสั่งให้วัดจากแอพ Mi Fit บน Smartphone แต่สำหรับ Mi Band 2 จะสะดวกหน่อยก็ตรงหน้าจอแสดงผลบน Mi Band 2 ที่เวลาเราเลื่อนไปดูสถานะอัตราการเต้นของหัวใจ แล้วรอสักแป๊ป ก็แสดงผลเลย ไม่ต้องมากดที่ Smartphone ก็เพิ่มความสะดวกไปอีกนิด หรือจะกดผ่าน Smartphone ก็ยังได้เหมือนเดิม แต่ดูแล้วก็ไม่สุด ถ้าจะสุดต้องพัฒนาแอพให้เก็บรายงานแบบเรียลไทม์ ระหว่างวันได้ด้วย เพราะแบตของเจ้า Mi Band 2 นี่อึดอยู่แล้ว
เรื่องรายงานสรุปต่างๆ ก็ค่อนข้างทำได้ดี UI สวยงามดี และจะให้สมบูรณ์ล่ะก็ ต้องเป็นสาวก Xiaomi จริง คืออย่างผมใช้ตั้งแต่ Mi Band, Mi Scale และ Mi Shoes (Li-Ning) กันเลยทีเดียว จะเห็นว่าในแอพมีบอกครบถ้วน ส่วนที่บอกการก้าวเดินในแต่ละเวลา และการนอนหลับก็เป็นปกติทั่วๆ ไปครับ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ และการนอนหลับระหว่างวัน ก็ไม่ได้ถูกนับรวมเอาไว้ด้วยนะ อันนี้ก็น่าเสียดาย เพราะแบรนด์อื่นๆ ที่ผมใช้คู่กันอยู่ก็สามารถแทรคการนอนระหว่างที่งีบหลับช่วงกลางวันได้ด้วย
สรุปรวมๆ หน้า profile เรียกว่าครบหมดทุกส่วนที่เราอยากรู้
ไขข้อข้องใจ แอพอื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกันล่ะ?
แอพอื่นๆ ที่เคยซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้ เช่น Mi Band Notify & Fitness สำหรับช่วยทำให้เจ้า Mi Band 1S กลายเป็นอุปกรณ์วัด hear rate ที่จะใช้ร่วมกับแอพวิ่งหรือแอพออกกำลังายได้ อาทิเช่น endomodo หรืออื่นๆ บอกเลยว่าอด เพราะแอพเหล่านี้ยังไม่ได้อัพเดทให้รองรับกับ Mi Band 2 นะครับ ลองแล้วยังทำไม่ได้ อนาคตคงจะสามารถทำได้ล่ะ ตอนนี้ใครที่ยังไม่ได้ซื้อเวอร์ชั่น pro ของแอพพวกนี้ ก็อย่าเพิ่งล่ะครับ อดใจไว้ก่อน รอจัดทีเดียวตอนที่ใช้งานได้แล้ว ส่วนของผมซื้อเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ใช้ Mi Band 1S แล้วล่ะ
ก็หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กันนะครับ สำหรับเจ้า Mi Band 2 ที่ราคาค่าตัวจริงๆ เปิดมาที่ไม่ถึงพันบาทที่จีนแต่ทว่าตอนนี้ใน store ต่างๆ ขายกันอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท รวมถึงหิ้วในบ้านเราเองด้วย แต่วันนี้ (ช่วงที่รอคอย) อย่างที่บอกตอนแรกล่ะครับว่ามีโปรโมชั่นด้วย โดยการสั่งซื้อผ่านออนไลน์ ต้องรอวันจัดส่งกันหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มอยู่ดี เพราะราคาค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 800 บาทตามข่าว แต่ว่าคงหาซื้อราคานี้ไม่ได้อยู่แล้ว สามารถสั่งซื้อกันได้ที่ http://goo.gl/nAtD4F เลยครับ เป็น Online Store แน่นอนว่ามีราคาพิเศษ และ promotion code ก็คือ ..... กด Like page PDAMobiz https://www.facebook.com/PDAMobizWebsite/ แล้ว Inbox มานะ ก็หวังว่าจะได้ราคาที่ใช่ กับสินค้าที่ชอบกันนะครับ วันนี้ลาไปก่อนล่ะคร้าบบ