มาคุยกับเรื่อง 5G หน่อยก็แล้วกัน แต่ในแง่ของการโปรโมตของโอเปอเรเตอร์นะ เป็นเรื่องปกติที่ทั้งสามค่ายจะแข่งกันโฆษณา แย่งความเป็นที่ 1 ซึ่งงานนี้เมื่อมีข่าวประกาศอนุญาตอย่างเป็นทางการ สองค่ายใหญ่ เบอร์ 1 และ 2 ต่างก็รีบคว้าตำแหน่งเปิดทดสอบ 5G อย่างเป็นทางการ โดยมีการประกาศออกมาพร้อมๆ กัน แต่ความเร็วที่เปิดทดสอบจริงๆ ก็คือค่าย AIS มีการยิง Line โฆษณามาในเวลาใกล้เคียงกัน แต่ทาง AIS กลับเปิดทดสอบที่ AIS DC และ Live โชว์ในอีกไม่กี่วันถัดไป ก็น่าสนใจที่ทีม AIS ทำงานเตรียมพร้อมได้อย่างรวดเร็วจริงจัง โดยทดสอบความเร็วครั้งแรกที่ 16 Gbps ซึ่งถือว่าเร็วมาก ดาวโหลดหนัง เพลง หรือข้อมูลที่เราใช้งานในปัจจุบันเรียกว่าพริบตาเดียวเสร็จ ซึ่งช่วงนั้นก็จะงง งง อยู่ว่าใครเป็นเบอร์ 1 ต่อมาทาง TrueMove H ก็ตามมาด้วยการทดสอบความเร็วที่เร็วกว่าที่ 18 Gbps ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงแรกคงเปิดทดสอบไม่ทัน เป็นเบอร์ 1 ไม่ทันในด้านการเปิดทดสอบ แต่เป็นเบอร์ 1 ในเรื่องความเร็ว และต่อมาไม่จบเพราะ AIS ก็เคลมกลับมาว่า ฉันเร็วกว่าที่ 19.5 Gpbs นะจ๊ะ แต่ว่าเป็นความเร็วที่บวกเทคโนโลยีเพิ่มคือ Next G+ หรือเอา WiFi มารวมด้วยนั่นเอง ดูๆ ไปเกมนี้ก็สนุกดี เพราะมีการช่วงชิงพื้นที่ความเป็นที่ 1 กันอย่างสนุก ทั้งสองค่ายนี้ต่างก็ไม่ยอมกัน ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องเอาสักมุมล่ะนะ ซึ่งผมว่าจริงๆ แล้ว เทคโนโลยีมันคงตันที่ 18.x Gbps ซึ่งถ้ามาเทียบการใช้งาน 5G จริงๆ ก็คงไม่ต่างกันเยอะหรอก แม้ว่าจะไปที่ 19.5Gbps ก็ตามที เพราะยังไงก็มีข้อจำกัดคือต้องเกาะ AIS Super WiFi ด้วย นั่นเอง ซึ่งแต่ละค่ายก็ชูจุดเด่นของตัวเองกันไป ซึ่งเกมนี้ยังไม่จบ เพราะว่ายังจะมีการชิงพื้นที่กันอีกครั้งเมื่อ มีการเปิดให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการ ที่เกาหลีก็เริ่มแล้ว ซึ่งผลกระทบกับเราจริงๆ คงไม่ใช่ความเร็วในการใช้งานเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นแพ็กเกจโปรโมชั่นต่างหากที่เราจะต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กับความเร็ว รวมถึงพื้นที่ ที่ให้บริการ ซึ่งก็คงมาเคลมกันอีกทีว่าใครให้บริการได้ครอบคลุมมากกว่ากัน
