จากตู้เกมทุบอิฐ สู่ตำนานนักสู้ข้างถนน – เผยแรงบันดาลใจสุดเซอร์ไพรส์ของผู้สร้าง Street Fighter ภาคแรก!"
ฟัง Podcast ได้ที่นี่ => https://open.spotify.com/episode/2CUpxpmLcB0Lr2eufpjYjc?si=adbba330e1274b36
แรงบันดาลใจจากตู้เกมเก่า สู่กำเนิดของ Street Fighter
ใครจะคิดว่าเกมต่อสู้ระดับตำนานอย่าง Street Fighter จะมีจุดเริ่มต้นจากแค่ตู้เกมทุบอิฐธรรมดา ๆ? ทาคาชิ นิชิยามะ (Takashi Nishiyama) ผู้กำกับเกม Street Fighter ภาคแรกที่เปิดตัวในปี 1987 ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์กับ Gamest (ซึ่งได้รับการแปลโดย Shmuplations) ว่าแรงบันดาลใจของเขานั้นมาจาก "ตู้เกมเครื่องกลไฟฟ้าที่ให้ผู้เล่นใช้ท่าคาราเต้สับเพื่อตีอิฐให้แตก"
แม้เขาจะไม่ได้ยืนยันชัดเจนว่าเป็นเครื่อง The Karate ของบริษัท ESCO Trading Co. Inc. ซึ่งวางจำหน่ายในปี 1980 แต่จากลักษณะของเครื่องก็มีความคล้ายคลึงกันมาก และดูเหมือนว่าเครื่องดังกล่าวจะเป็นต้นแบบสำคัญของ Street Fighter ภาคแรกเลยทีเดียว
"ผมเคยคิดว่า จะเป็นไปได้ไหมถ้าเราสร้างสิ่งนั้นขึ้นมาเป็นวิดีโอเกม... นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของ Street Fighter" – ทาคาชิ นิชิยามะ
จุดเริ่มต้นที่เจ็บจริง! เมื่อการเล่นเกมคือความทรมานทางกาย
หนึ่งในจุดเด่น (หรือเรียกว่า ข้อผิดพลาด) ของ Street Fighter ภาคแรก คือการใช้แผ่นควบคุมแบบไวต่อแรงกด ซึ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ของทั้งผู้พัฒนาและผู้เล่น แผ่นกดเหล่านี้ไม่เพียงพังง่ายเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้เล่นบาดเจ็บได้อีกด้วย!
ฮิโรชิ มัตสึโมโตะ (Hiroshi Matsumoto) ดีไซเนอร์ของเกม ยังเคยประสบกับอาการบวมที่มือ เพราะในช่วงแรกของการพัฒนา แผ่นกดไม่มียางรองกันกระแทก! ซึ่งสุดท้ายแล้ว Capcom ต้องเปลี่ยนมาใช้ปุ่มแบบ 6 ปุ่มที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเกม Street Fighter นับแต่นั้น
"Stress Fighter" – เมื่อการสร้างเกมกลายเป็นบททดสอบจิตใจ
การพัฒนา Street Fighter ไม่ใช่เรื่องง่าย และเต็มไปด้วยความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจของทีมงาน
"ในฐานะผู้วางแผนเกม คุณจะโกรธไม่ได้ ต้องรักษาสมดุลไว้เสมอ ถึงจะโมโหกับโปรแกรมหรือฮาร์ดแวร์ได้ก็เถอะ... พอการพัฒนาเริ่มติดขัด ไม่ใช่แค่ความโกรธหรอกที่รู้สึก มันมีความเหนื่อยล้าด้วย" – นิชิยามะกล่าว
เขายังเล่าว่าในทีมบางครั้งก็เริ่มเสียสติเล็ก ๆ จากความเครียด จนเรียกเกมนี้กันเล่น ๆ ว่า “Stress Fighter” เพื่อเป็นที่ระบายอารมณ์ให้กับทั้งทีมพัฒนาและผู้เล่น
มุมมองเพิ่มเติม: ทำไมข่าวนี้ถึงน่าสนใจสำหรับวงการเกม?
เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่เกมที่กลายเป็นตำนานระดับโลก ก็สามารถมีจุดเริ่มต้นจากแรงบันดาลใจธรรมดา ๆ ได้ และเบื้องหลังความสำเร็จนั้นมักมีทั้งน้ำตา ความเจ็บปวด และความคลั่งไคล้
สำหรับแฟน ๆ Street Fighter หรือเกมเมอร์ที่ชื่นชอบแนวไฟท์ติ้ง ข่าวนี้ช่วยเติมเต็มภาพของตำนานในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน และยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของนักพัฒนาเกม ที่ต้องฟันฝ่าความเครียดด้วยความมุ่งมั่นและความสร้างสรรค์ จนกลายมาเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเกม
และอาจกล่าวได้ว่า ถ้าไม่มีเครื่อง The Karate ในวันนั้น ก็คงไม่มี Hadouken ในวันนี้เช่นกัน
หากรู้สึกทึ่งกับเรื่องราวนี้ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนเกมเมอร์ได้อ่านกันต่อ!
เพราะทุกตำนาน… ล้วนมีจุดเริ่มต้นที่เราอาจคาดไม่ถึง