Impact-Site-Verification: 71731b28-6515-46b4-a1fe-c3af7dfa427f
Type Here to Get Search Results !

ก้าวแรกของปี - สู่งานวิ่ง ปี 2018 Walk&Run for Social Care&Share - plantronics Backbeat FIT

0


อาจจะเรียกว่ามารีวิวงานวิ่งก็ว่าได้มั้งครับ งานนี้เป็นงานแรกที่ลงในปีนี้ Walk&Run Social share วิ่งระยะ มินิมาราธอนเเหมือนเดิม ระยะที่หลายๆ คนชอบพิชิดมัน เพราะมันไม่ง่ายและไม่ยากจนเกินไปนัก ผมเองก็เช่นกัน แม้วิ่งมาหลายสนาม วิ่งมาหลายปี แต่ก็ยังพิชิตที่ก่อนหนึ่งชั่วโมงไม่ได้ เพราะว่าไม่มีระเบียบวินัยในการซ้อมนั่นเอง




   ที่ผมลงสนามนี้ก็เพราะว่า ใกล้บ้าน ยังไม่เคยได้วิ่งที่นี่ด้วย เลยจัดไปซะ ปีที่แล้วก็เล็งอยู่นะ ยังไม่ได้ยิงสักที จัดที่กระทรวงสาธารณสุข ตรงแยกแคลายเลยไปหน่อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเอาจริงๆ งานวิ่งเดี๋ยวนี้จัดเยอะมาก ผมก็ไม่ค่อยอยากไปวิ่งในเมืองสักเท่าไหร่ เนื่องจากท่ั้งมลภาวะ ทั้งการปิดการจราจร และอีกหลายเรื่อง อีกอย่างคือ ราคา เดี๋ยวนี้หาวิ่ง 10 โลต่ำกว่า 400 บาทยากมาก แทบจะไม่มีแล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากให้มีตัวเลือกไม่เอาเสื้อ ประหยัดไปอีกร้อยน่าจะดี เพราะปกติเสิื้อวิ่งผมเอามาใส่นอน ใส่อยู่บ้าน วิ่งเล่นๆ มาหลายปี ลงงานไม่กี่งาน ก็ยังกองอยู่เพียบเลย



Walk&Run Social share 2018 งานนี้มีเหตุผลและจุดประสงค์ตามนี้
---------------------------------------

หลัการและเหตุผล

     สังคมในปัจจุบันนี้ มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่สังคมมักมองข้าม นั่นคือคนพิการหรือคนที่มีความทุพพลภาพ  และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งคนเหล่านี้ ถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในสังคม ที่ไม่ควรถูกละเลย ในทางตรงข้ามควรเป็นกลุ่มที่ต้องได้รับการดูแลจากสังคมเป็นพิเศษ
      เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงปัญหา และเล็งเห็นถึง ศักยภาพ คุณค่าของคนทุพพลภาพ ที่เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีสิทธิ โอกาส และความเสมอภาคเท่าเทียมกับคนทั่วไป ในฐานะสมาคมนักสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และกลุ่มภาคี  จึงได้ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรม walk and run for social care  เพื่อรณรงค์ ให้ทุกภาคส่วน ได้ตระหนักถึงปัญหา และสนับสนุน ช่วยเหลือผู้ทุพพลภาพและกลุ่มเปราะบางในสังคม ให้มีโอกาสทัดเทียมกับบุคคลทั่วไป 
***กลุ่มเปราะบางคือ เด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง ผู้ป่วยเร่ร่อน ผู้สูงอายุ/ผู้พิการทางจิตที่ถูกทอดทิ้ง/ญาติไม่สนใจไม่มาเยี่ยม

วัตถุประสงค์ของการจัดงาน

1. เพื่อพัฒนาบริการด้านงานสังคมสงเคราะห์สนับสนุนการช่วยเหลือผู้พิการทุพพลภาพและกลุ่มเปราะบางกลุ่มผู้ป่วยที่ประสบปัญหา
2. เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์บรมราชชนนีพระมารดาแห่งการสังคมสงเคราะห์
3. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสัมพันธ์ของการส่งเสริมสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย
4. เพื่อจัดหาทุนสนับสนุนกิจกรรมงานสังคมสงเคราะห์และกิจกรรมสาธารณประโยชน์
--------------------------------

ด้วยเหตุผลข้างต้นที่ในเว็บระบุเอาไว้ชัดเจน ก็เรียกว่าเป็นการสนับสนุนสังคมอีกทางนึง

    คือก็ต้องบอกเลยว่าช่วงหลังนี่ซ้อมวิ่งน้อย แถมพักผ่อนก็น้อยตามไปด้วย ทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์สักเท่าไหร่ นอนไม่ค่อยเป็นเวลา มีผลทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย แต่การออกกำลังกาย มีเหงื่อออกนี่ช่วยได้เยอะจริงๆ ทำให้รู้สึกดี กระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย


ในงานนี้มีที่จอดรถภายในกระทรวงเอง ทำให้ไม่ลำบากนัก หรือใครมาแทกซี่ก็สบายๆ แต่ปัญหาคือ ทางผู้จัดงานไม่ได้กันพื้นที่ ที่เป็นเส้นทางวิ่งไม่ให้จอดรถ ทำให้เส้นทางแคบกว่าปกติ อีกอย่างคือระหว่างทาง จุดพักดื่มน้ำ ไม่ได้เตรียมถุงขยะเอาไว้รองรับ ซึ่งหลายๆ งานเค้ารณรงค์เรื่องนี้กันเยอะเลยนะ แต่งานนี้ จำได้ว่ามีอยู่เหมือนกัน แต่ว่าน้อยจุดมาก ส่วนใหญ่ ทิ้งกันเกลื่อนถนน ส่วนตัวผมก็พยายามถือไป แต่ก็ไม่เจอที่ทิ้ง สรุปก็ต้องทิ้งบนถนนเหมือนกัน แต่ผมจะหยุดดื่มน้ำที่จุดและทิ้งแถวๆ นั้น อย่างน้อยคนทำความสะอาด หรือตามเก็บจะได้ไม่ต้องไปเก็บไกล

เรื่องเส้นทางวิ่ง


เส้นทางวิ่ง เนื่องจากเพิ่งเคยวิ่งครั้งแรก ก็ประทับใจ บรรยากาศดี จะมีบางช่วงที่กลิ่นถังขยะบ้าง แต่โดยรวมก็โอเค แต่เรื่องระยะทางวิ่ง วัดออกมาได้ประมาณ 9.5 กิโลเท่านั้นไม่ถึง 10 กิโลตามที่แจ้งไว้ ระยะขาด ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจล่ะนะ



หลังจากวิ่งเสร็จก็ตามธรรมเนียมมีอาหาร ข้าวไข่เจียว ทอดร้อนๆ อร่อย โจ๊ก เกลือแร่ ขนม กล้วย เพียงพอกับจำนวนคนวิ่ง เนื่องจากวันที่ 21 มกราคม 2018 มีงานวิ่งใหญ่ๆ อยู่หลายงาน ทำให้งานนี้คนไม่ได้เยอะมากนัก เข้าคิวแป๊ปเดียวก็ได้ละ ผมเคยเจอบางงานคิวยาว เข้าคิวเสร็จจะถึงเราคือหมดพอดี


อ้อ อีกอย่างที่ชอบ ก็คือมีนวดโดยใช้ระยะเวลาไม่นาน ประมาณสัก 10 นาที ตัวเบาเลย จากทัณฑสถานหญิง ผมไปซ้ำมารอบนึง ใช้ได้เลยล่ะ ตัวเบาขึ้นเลย

แต่อีกอันที่ต้องคอมเม้นท์คือ การประกาศรางวัล น่าแปลกที่มีการจัดอันดับต่างๆ แต่การประกาศผู้ชนะแต่ละรุ่น ไม่ประกาศเวลาที่วิ่งเข้าเส้นชัย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน อันนี้แปลกดี  ที่แปลกอีกอย่างคือ มีการร่วมชิงรางวัล แต่ถามเจ้าหน้าที่บางคน ก็ไม่รู้ข้อมูลเหมือนมีข้อมูลที่ไม่ตรงกัน ก็แปลกดีครับ



เข้ามาเรื่องการวิ่งของผมเองสักหน่อย  ตอนแรกก็กังวลว่าจะจบที่เวลาสักเท่าไหร่ เพราะว่าร่างกายก็ไม่พร้อมมากนัก นอนดึกติดกันมาหลายสัปดาห์ ในช่วงแรกๆ ก็พยายามจะรักษาระดับความเร็ว ไม่ให้เร็วมากเดี๋ยวจะเหนื่อย แรงหมด ถึงแม้รู้อยู่แล้วว่าระยะ 10 กิโลเมตรนี้ยังไงเราก็ผ่าน สบายๆ เจ้ากรรม ระหว่างวิ่ง Amazfit Health ดันเตือนตลอดทาง สร้างความรำคาญและเสียสมาธิในการวิ่งไม่น้อยเลย จนต้องเปลี่ยนข้างข้อมือใส่ระหว่างวิ่ง น่าจะเคยตั้งไว้ว่าหัวใจเต้นเกินเท่าไหร่ให้สั่นเตือน สุดท้ายก็ให้เตือนกันไปจนวิ่งจบ มันรำคาญอย่าบอกใครเลยทีเดียว คงเผลอไปตั้งค่าเอาไว้ล่ะมั้งผม ที่สำคัญดันเปลี่ยนการตั้งค่าจากตัวมันเองไม่ได้ซะด้วย



ระดับความเร็วในครั้งนี้ผมว่าน่าพอใจ ถึงแม้ว่าจะมีช้าบ้าง เดินบ้างช่วงรับน้ำตามจุด เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย แต่ก็ยังไม่ต่ำกว่าชั่วโมงอยู่ดี ผมโอเคแล้วล่ะครั้งนี้ อ้อระหว่างทางก็เปิดเพลงฟังไปด้วยตามสไตล์อยู่แล้ว ซึ่งงานนี้ใช้ plantronics Backbeat FIT ที่หลายคนเลือกใช้งาน เสียงดี แบตอึด จบเลย



  มาดูสถิติของผมในครั้งนี้สักหน่อย จากที่ซ้อมน้อย พักผ่อนน้อย แต่สถิติที่ทำออกมาก็ถือว่าโอเค แต่ที่ชัดเจนก็คือหัวใจทำงานหนัก TE ไปที่ 5.0 เต็มๆ ระหว่างวิ่งมีการหยุดพักกินน้ำ ซึ่งช่วงหลังทดลอง หยุดเดินก่อนถึงจุดรับน้ำประมาณ 5 -10 เมตร ตอนวิ่งแรกๆ ก็คิอว่าวิ่งไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด แต่มาปีนี้คงจะลองหยุดเดิมเพื่อให้ร่างกายผ่อนคลายบ้าง ให้หัวใจทำงานลดลงบ้างบางจังหวะ ซึ่งได้เวลาออกมาที่ 6.23 ซึ่งถ้าอยากต่ำกว่าชั่วโมงต้องเฉลี่ยที่ 5.x คงต้องฟิตกว่านี้ ฝึกซ้อมและพักผ่อนมากๆ แต่ครั้งนี้ก็คงเป็นอีกครั้งของการทดลอง ทดสอบ และฟังเสียงของร่างกาย ประกอบในการวิ่ง นอกจากนั้นก็คงเป็น Garmin Forerunner 235 ที่อยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ ที่เป็นเครื่องมือช่วยมาโดยตลอด


อนาคตอยากจะไปที่ Zone ต่ำกว่านี้ แต่คงต้องฟิตซ้อมและพักผ่อนให้เพียงพอล่ะนะ



   ที่เหลือก็ไปหารูปสิครับ งานนี้ช่างภาพน้อย แต่ก็ดีนะ เพราะงานไม่ได้ใหญ่มาก จำนวนคนก็ไม่ได้มากขนาดนั้น หารูปง่ายหน่อย ใส่เสื้อสีส้มที่ไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ สรุปงานนี้คือพอใช้ได้ครับ

 

อ้อ ทิ้งท้ายว่าในช่วงท้ายๆ ก่อนเข้าเส้นชัย สปีดวิ่งไม่ทันคนแก่สักห้าหกสิบ ที่เค้าสปีดอัพเฮือกสุดท้ายเหมือนกัน อันนี้ทึ่งพี่เค้าจริงๆ  แถมงานนี้เด็กสิบควบยังได้ที่ 1 ในแง่ของ overall อีกต่างหากน่าทึ่งมาก ส่วนตัวผมเอง วิ่งอยู่ที่ประมาณ 1.0x นาที ซึ่งหากวิ่งครบ 10 กิโลเมตรจริงๆ ก็ยังจบที่ต่ำกว่าชั่วโมงไม่ได้ งานหน้าต้องฝึกใหม่ละนะ แต่คิดดูสิว่าเด็กสิบขวบวิ่งจบที่ประมาณ 3x นาที อายเด็กไหมล่ะ?


ขอบคุณ ภาพงานวิ่งจาก

https://www.facebook.com/HS6OTU/ ,
วิ่งสร้างภาพ
Thai.Run


อุปกรณ์ที่ใช้ plantronic Backbeat FIT
Xiaomi Mi A1
Tags

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

buttons=(Accept !) days=(20)

Our website uses cookies to enhance your experience. Learn More
Accept !