Impact-Site-Verification: 71731b28-6515-46b4-a1fe-c3af7dfa427f Happy Talks : Xiaomi เปลี่ยนไป? - Happy Tech Blog

Header Ads

Hightlight

Happy Talks : Xiaomi เปลี่ยนไป?





วันนี้มาคุยกันเรื่อง Xiaomi กันดีกว่า ตอนนี้กำลังจะถึงจุดเปลี่ยนที่สังเกตุเห็นได้ชัด จากคอนเซ็ปท์เดิมๆ ที่เคยเป็นจุดแข็งและจุดที่ทุกคนพูดถึง นั่นก็คือ สเปคคุ้มค่ากับราคา และราคาสบายกระเป๋า ซึ่งจุดแข็งทั้งหมดอยู่จุดเดียวกัน และอีกกระแสนึงก็คือ econo-logical Xiaomi ไม่มีแบรนด์ Mi มันจะเป็นยังไง? เอาประเด็นแรกก่อน คืออย่างชัดเจนว่า การทำตลาดของ Xiaomi นั้นเริ่มมาจาก Online จุดกำเนิดจริงๆ ก็คือ MIUI ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า UI อื่นๆ ในยุคนึง ในปัจจุบันก็ยังอยู่ในระดับต้นๆ เรื่องของความเสถียร แต่ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่า จุดแข็งนี้ กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่เริ่มเหมือนกับค่ายอื่นๆ แม้ว่าจะยังอัพเดทออกมาตลอด แต่รู้สึกว่าช้าลง จำนวนรุ่นที่อัพเกรดได้บางรุ่นก็ไม่ได้รับการอัพเกรด อาจจะด้วยจำนวนรุ่นที่ออกมามาก Xiaomi อาจจะเริ่มโฟกัสไปที่รุ่นที่มีจำนวนคนใช้เยอะ และใช้ resource ทีม dev ให้คุ้มค่า ทำให้บางรุ่นอาจจะตกสำรวจไปโดยปริยาย แต่ประเด็นคงไม่ใช่ตรงนี้เป็นสำคัญ สำคัญคือ Xiaomi พยายามแยกเอาจุดแข็งออกจากกัน เพื่อซอยย่อยตลาดของผู้ใช้งานออกไป โดยเอาราคาสบายกระเป๋า อันนี้ก็ยังมีอยู่ แต่สเปคอาจจะไม่ได้คุ้มราคาเท่าสมัยก่อน

อาจจะมีแต่ก็แค่บางรุ่นเท่านั้น และออกมาถี่มา หัวปีท้ายปี จากเมื่อก่อนซีรีส์ประหยัดอย่าง Redmi นี่ผมก็ใช้มานานหลาย gen ตั้งแต่ Redmi 1S รู้สึกว่าสเปคหลังๆ น่าจะอัดมาให้สมกับชื่อ Xiaomi แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด แต่อย่างที่เห็นล่ะครับ เค้ามักจะซอยย่อยลงมาอีกเป็น 2 รุ่นคือรุ่นราคาถูก และรุ่นสเปคดีหน่อยแต่ต้องเพิ่มตังค์อีกนิด อ้อ ในไทย Redmi ยังไม่ได้แยกแบรนด์ทำตลาดออกไปเหมือนในต่างประเทศนะ ยังอยู่ภายใต้ Xiaomi เหมือนเดิม แต่ที่จะคุ้มจริงๆ น่าจะเป็นรุ่นระดับกลางที่ผมมองว่ายังพอคงคอนเซ็ปท์สเปคคุ้มราคาได้อยู่นะซึ่งตลาดนี้ก็ฟาดฟันกันสนุกทุกค่ายเลย หลังๆ เรื่องกล้องของ Xiaomi นี่ก็คือไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

แต่ลองกลับมาที่รุ่นล่าสุดที่เพิ่มเปิดตัวไปก็คือ Xioami Mi 10 ซีรีส์ ซึ่งแน่นอนว่าค่ายจีนเกือบทุกค่ายตอนนี้ แม้แต่รุ่นที่เป็นเรือธงก็พยายามซอยย่อยให้ครบทุกช่วงราคาให้จับต้องได้ โดยอาศัยความเป็นเรือธงนั่นล่ะ แต่เอาจริงๆ ถ้าเป็นสมัยก่อน ก็ตั้งชือรุ่นใหม่ไปแล้ว หลังๆ กลายเป็น รุ่น Pro Max lite อะไรพวกนี้ไป ประเด็นคือ Mi 10 ที่ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางการเริ่มต้นอยู่ที่ 27,999 บาท ซึ่งได้ทลายคอนเซ็ปท์เรือธงที่คุ้มค่าไปเรียบร้อย กลายเป็นการกำหนดราคาที่คุ้มค่าสำหรับแบรนด์ เพราะเอาจริงๆ Xiaomi เอากำไรน้อยมาแต่ไหนแต่ไร แต่พอมาตั้งราคาแบบนี้ก็คิดได้เลยว่า ถึงช่วงเวลาตักตวงแล้ว ซึ่งคอนเซ็ปท์แบบนี้เราคงเห็นมากับหลายค่าย ไม่ใช่แค่ Xiaomi ถึงบอกว่า Xiaomi กำลังจะเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนเลยทีเดียว แม้อาจจะมองว่าฟีเจอร์ และสเปคอัดมาแบบสุดๆ และยังถูกกว่าค่ายหลักๆ ทั้งหลายที่เปิดตัวมาหลักสามหมื่นขึ้นไป แต่ทว่า แฟนๆ คงไม่ได้คิดเช่นนั้น การตั้งราคาอ้างอิงตามตลาดก็ดี ผมก็ว่าในด้านธุรกิจมันก็ต้องอย่างนั้นล่ะ ไม่งั้นจะรอดได้ไง แต่ทว่ามันก็อาจจะทลายเรื่องความชื่อชอบในแบรนด์ไปในระดับนึงเลย แม้ว่าอาจจะไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับรุ่นนี้ หรือรุ่นอื่นๆ ณ เวลานี้ แต่ในระยะยาว หากมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆ จนทำให้แฟนๆ รู้สึกว่า Xiaomi เองก็ไม่ได้จริงใจเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นแฟนที่เป็นตัวจริงอาจจะกลายเป็นแฟนธรรมดา หรืออาจจะถึงขั้นเปลี่ยนใจไปซบค่ายอื่นกันได้ง่ายกว่าเดิมก็เป็นไปได้นะ ผมว่าอันนี้ก็มองกันยาวๆ ไป แต่คงอีกไม่นานหากทิศทางมันชัดเจนขนาดนี้ล่ะนะ ค้างอีกประเด็นไว้ก่อนละกันครับ ไว้เจอกันใหม่

ไม่มีความคิดเห็น

======= Start Skimlink ======= ======= Stop Skimlink =======