ผลการศึกษาจากไอดีซีที่ได้รั บการสนับสนุนจากอีเอ็มซี คาดการณ์ปริมาณดาต้าโตเร็วกว่า
กฎของมอร์ (Moore’s Law) โดยในปี 2554 มีข้อมูลมากถึง 1.8 เซตตาไบต์
องค์กรต้องจัดการข้อมูลและไฟล์ มากขึ้น 50 เท่า คาดเติบโต 75 เท่าในทศวรรษหน้า
ประเด็นข่าว:
· ไอดีซีเผยผลการศึกษา ดิจิตอล ยูนิเวิร์ส (Digital Universe) ฉบับล่าสุดภายใต้หัวข้อ “การกลั่นกรองคุณค่ าจากความโกลาหล” (Extracting Value from Chaos)1 (ได้รับการสนับสนุนจากอีเอ็มซี) พร้อมระบุ ข้อมูลทั่วโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกๆ 2 ปี ซืงเติบโตเร็วกว่ากฎของมอร์
· ผลการศึกษาดังกล่าวคาดการณ์ว่า ข้อมูล 1.8 เซตตาไบต์ (1.8 ล้านล้านกิกะไบต์) จะถูกสร้างและคัดลอกในช่วงปี 2554
· กระแสของดิจิตอล ยูนิเวิร์ส (Digital Universe) และ “บิ๊กดาต้า” (Big Data) ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางสั งคม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ
· เทคโนโลยี “การบริหารจัดการข้อมูล” (Information Taming) ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้าง บันทึก จัดการ และจัดเก็บข้อมูล โดยในปี 2554 ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลดลงเหลื อเพียง 1 ใน 6 เมื่อเทียบกับปี 2548
· การลงทุนขององค์กรต่างๆ ในระบบข้อมูลดิจิตอลเพิ่มขึ้น 50% จนถึงระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา
เนื้อหาข่าว:
ฮอปคินตัน, แมสซาชูเส็ตต์—29 มิถุนายน 2554—อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EMC) เผยผลการศึกษา ดิจิตอล ยูนิเวิร์ส (Digital Universe) ของไอดีซี ภายใต้หัวข้อ “การกลั่นกรองคุณค่ าจากความโกลาหล” (Extracting Value from Chaos) โดยผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า ข้อมูลทั่วโลกมีปริมาณเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกๆ 2 ปี และข้อมูล 1.8 เซตตาไบต์ถูกสร้างและคัดลอกในช่ วงปี 2554 ซึ่งเติบโตเร็วกว่ากฎของมอร์
สำหรับท่านที่ต้องการรับชมข้อมู ลในรูปแบบมัลติมีเดีย กรุณาชมเว็บไซต์: http://www.emc.com/about/news/ press/20110628-01.htm
ผลการศึกษาประจำปีฉบับที่ 5 นี้ประเมินและคาดการณ์เกี่ยวกั บปริมาณข้อมูลดิจิตอลที่ถูกสร้ างและคัดลอกในแต่ละปี พร้อมทั้งวิเคราะห์นัยยะทั้ งในระดับบุคคล องค์กร และบุคลากรด้านไอที รวมถึงผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีสำหรับกระแสบิ๊ กดาต้าและโอกาสอื่นๆ
ในแง่ของปริมาณ ข้อมูล 1.8 เซตตาไบต์เท่ากับ:
• ประชากรทุกคนในประเทศไทย (ประมาณ 67 ล้านคน) ส่งข้อความทวีต 3 ข้อความต่อนาทีเป็นระยะเวลา 124,311 ปีอย่างต่อเนื่อง
• ประชากรทุกคนทั่วโลกสแกน MRI แบบความละเอียดสูงกว่า 215 ล้านครั้งต่อวัน
• ภาพยนตร์ระบบ HD กว่า 200,000 ล้านเรื่อง (ความยาวเรื่องละ 2 ชั่วโมง) ถ้าให้คน 1 คนชมภาพยนตร์ทั้งหมดต่อเนื่องทุ กวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่หยุด ก็จะต้องใช้เวลานานถึง 47 ล้านปี
• ปริมาณข้อมูลที่ต้องใช้เพื่อเติ มเต็มหน่วยความจำ 32GB ในเครื่องแอปเปิล ไอแพด (Apple iPad) จำนวน 57,500 ล้านเครื่อง โดยหากใช้ไอแพดจำนวนเท่านี้ เราจะสามารถ:
- สร้างกำแพงไอแพดที่มีความยาว 4,005 ไมล์ และมีความสูง 61 ฟุต โดยครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่เมื องแองเคอเรจ รัฐอลาสก้า ไปจนถึงเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า
- สร้างกำแพงเมืองจีนโดยใช้ไอแพด ซึ่งจะมีความสูงเฉลี่ยมากกว่ ากำแพงของจริงถึง 2 เท่า
- สร้างกำแพงสูง 20 ฟุตล้อมรอบทวีปอเมริกาใต้
- ครอบคลุมพื้นที่ 86% ของเม็กซิโกซิตี้
- สร้างภูเขาที่สูงกว่าภูเขาไฟฟู จี 25 เท่า
แรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลั งการเติบโตอย่างต่อเนื่องนี้เป็ นผลมาจากเทคโนโลยีและเงิน เทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับการบริหารจัดการข้อมูล หรือ “Information Taming” ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการสร้าง บันทึก จัดการ และจัดเก็บข้อมูลให้เหลือเพียง 1 ใน 6 เมื่อเทียบกับปี 2548 นอกจากนั้น ตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา การลงทุนขององค์กรต่างๆ ในระบบข้อมูลดิจิตอล (Digital Universe) เพิ่มขึ้น 50% จนถึงระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์
ประเด็นสำคัญในผลการศึกษา:
• บุคลากรไม่เพียงพอต่อการจั ดการเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ข้อมูลจำนวนมหาศาล และจำนวนไฟล์ที่เพิ่มขึ้น: ไอดีซีตั้งข้อสังเกตว่าทักษะ ประสบการณ์ และทรัพยากรที่ใช้ในการจัดการข้ อมูลและทรัพยากรจำนวนมหาศาลไม่ เพียงพอต่อการขยายตัวในทุกๆ ด้าน ในช่วงทศวรรษหน้า (ภายในปี 2563) ฝ่ายไอทีทั่วโลกจะต้องรับมือกั บสถานการณ์ต่อไปนี้:
- เซิร์ฟเวอร์ (แบบเวอร์ช่วลและฟิสิคอล) มีจำนวนเพิ่มขึ้น 10 เท่า
- ข้อมูลที่จะต้องบริหารจัดการมี ปริมาณเพิ่มขึ้น 50 เท่า
- ไฟล์หรือคอนเทนเนอร์ที่บรรจุข้ อมูลมีจำนวนเพิ่มขึ้น 75 เท่า ซึ่งเติบโตรวดเร็วกว่าข้อมูล เพราะมีระบบ Embedded ที่ติดตั้งไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เช่น เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้ในเสื้ อผ้า สะพาน หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์
- บุคลากรฝ่ายไอทีที่จะต้องจั ดการสิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเพี ยง 1.5 เท่า
• ค่าใช้จ่ายสำหรับคลาวด์คอมพิวติ ้งและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน : แม้ว่าคลาวด์คอมพิวติ้งจะมีสั ดส่วนไม่ถึง 2% ของค่าใช้จ่ายไอทีในปัจจุบัน แต่ไอดีซีประเมินว่าภายในปี 2558 ข้อมูลเกือบ 20% จะถูก "สัมผัส" โดยผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้ ง ซึ่งนั่นหมายความว่าในช่วงอายุ การใช้งานของข้อมูล ตั้งแต่การสร้างไปจนถึงการกำจัด ข้อมูลจะถูกจัดเก็บหรื อประมวลผลในระบบคลาวด์ บางทีอาจจะมีข้อมูลมากถึง 10% ที่ได้รับการดูแลรั กษาในระบบคลาวด์
• โลกดิจิตอลทำงานในลักษณะที่ ควบคุมตัวเอง: ข้อมูลที่บุคคลสร้างขึ้นเอง เช่น การเขียนเอกสาร ถ่ายภาพ ดาวน์โหลดเพลง ฯลฯ มีปริมาณน้อยกว่ามากเมื่อเที ยบกับข้อมูลที่้ถูกสร้างขึ้ นในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับบุ คคลในโลกดิจิตอล
• ความรับผิดชอบอยู่ที่องค์กรเป็ นหลัก: แม้ว่า 75% ของข้อมูลดิจิตอลถูกสร้างขึ้ นโดยบุคคล แต่องค์กรต่างๆ ต้องดูแลรับผิดชอบข้อมูลดิจิตอล 80% ณ จุดใดจุดหนึ่งในช่วงอายุการใช้ งานของข้อมูล
“ข้อมูลจำนวนมหาศาลยังคงเพิ่มขึ ้นอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดโอกาสมากมายไม่มี ที่สิ้นสุด ควบคู่ไปกับความเปลี่ ยนแปลงทางสังคม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และเศรษฐกิจ” เจเรมี่ เบอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น กล่าว “แนวโน้มของข้อมูลขนาดใหญ่หรื อบิ๊กดาต้า (Big Data) ส่งผลให้องค์กรต้องเปลี่ ยนแปลงรูปแบบการจัดการและการใช้ ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่สำคัญที ่สุด นั่นคือ ข้อมูล อีเอ็มซีมีความพร้อมที่จะช่ วยเหลือลูกค้า ตั้งแต่องค์กรที่มีขนาดใหญ่ที่ สุดในโลก ไปจนถึงหน่วยงานราชการและองค์ กรธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อใช้ประโยชน์จากคุณค่าที่ซ่ อนเร้นของข้อมูลดิจิตอล ขณะที่ลูกค้ากำลังพัฒนาไปสู่ ระบบคลาวด์”
ข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่พบ
• เครื่องมือใหม่สำหรับการบันทึก ค้นหา ตรวจสอบ และวิเคราะห์จะช่วยให้องค์ กรสามารถกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึ กจากข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 90%ของข้อมูลดิจิตอล เครื่องมือเหล่านี้สามารถสร้ างคำอธิบายข้อมูลโดยอัตโนมัติ เหมือนกับการจดจำใบหน้าซึ่งใช้ สำหรับแท็กภาพถ่ายบนเฟซบุ๊ค คำอธิบายข้อมูลหรือเมตาดาต้า (Metadata) มีปริมาณเพิ่มขึ้นในอัตราที่ รวดเร็วกว่าการเติบโตของข้อมู ลดิจิตอลโดยรวมถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
• เครื่องมือบิสซิเนส อินเทลลิเจนซ์ (Business Intelligence) ต้องจัดการกับข้อมูลเรียลไทม์ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดค่าเบี้ ยประกันภัยรถยนต์โดยพิ จารณาจากสถานที่ที่ขับขี่ การกำหนดเส้นทางสำหรับการส่ งกระแสไฟฟ้าบนโครงข่ายระบบส่ งไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือการเปลี่ยนแปลงข้อความด้ านการตลาดอย่างฉับพลันทันทีเพื่ อให้สอดรับกับการตอบสนองที่เกิ ดขึ้นในเครือข่ายสังคมออนไลน์
• มีเครื่องมือใหม่สำหรับการจั ดการสตอเรจ ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็ บข้อมูล เช่น เทคโนโลยีการขจัดข้อมูลซ้ำซ้อน (De-duplication), การแบ่งระดับชั้นอัตโนมัติ (Auto-tiering) และเวอร์ช่วลไลเซชั่น (Virtualization) และช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่ าควรจะเก็บข้อมูลใดบ้าง เหมือนในโซลูชั่นการจั ดการคอนเทนต์
• แนวทางและเครื่องใหม่ๆ ด้านการรักษาความปลอดภัยจะช่ วยให้องค์กรสามารถระบุข้อมูลที่ จำเป็นต้องปกป้อง รวมถึงระดับการรักษาความปลอดภัย โดยครอบคลุมตั้งแต่อุปกรณ์ และซอฟต์แวร์ป้องกันภัยคุกคามที ่เฉพาะเจาะจง ไปจนถึงระบบจัดการการฉ้ อโกงและบริการปกป้องชื่อเสียง
• โซลูชั่นคลาวด์คอมพิวติ้ง ทั้งแบบพับบลิค (Public), ไพรเวท (Private) และไฮบริด (Hybrid) ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มความคล่องตัว และปรับปรุงความยืดหยุ่นได้อย่ างมาก เมื่อเทียบกับระบบไอทีรุ่นเก่า ในระยะยาว โซลูชั่นดังกล่าวจะเป็นเครื่ องมือสำคัญสำหรับการรับมือกั บความซับซ้อนของโลกดิจิตอล
• คลาวด์คอมพิวติ้งรองรับการใช้ ไอทีในรูปแบบบริการ (IT-as-a-Service) ซึ่งเมื่อรวมกับปรากฏการณ์บิ๊ กดาต้าแล้ว จะส่งผลให้องค์กรต่างๆ หันมาใช้ระบบไอทีในรูปแบบของบริ การภายนอกกันมากขึ้น แทนที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้ นฐานภายในองค์กร
• การเติบโตของข้อมูลดิจิตอลยั งคงแซงหน้าการขยายตัวของพื้นที่ จัดเก็บข้อมูล แต่อย่าลืมว่าข้อมูล 1 กิกะไบต์ที่จัดเก็บไว้สามารถสร้ างข้อมูลชั่วคราวที่เราไม่ได้ เก็บไว้ 1 เพทาไบต์ขึ้นไป (เช่น สัญญาโทรทัศน์ดิจิตอลที่เรารั บชม แต่ไม่ได้บันทึกไว้ เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ที่เป็นดิ จิตอลในเครือข่ายตลอดระยะเวลาที ่สนทนา)
• ไม่ถึง 1 ใน 3 ของข้อมูลดิจิตอลมีการรั กษาความปลอดภัยหรือการปกป้ องในระดับที่น้อยมาก ส่วนข้อมูลที่ได้รับการปกป้ องอย่างเหมาะสมมีเพียงครึ่งหนึ่ งเท่านั้น
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น (NYSE: EMC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพั ฒนาและจัดหาโซลูชั่ นและเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งช่วยให้องค์กรทุกขนาดปรั บปรุงขีดความสามารถในการแข่งขั นและใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่ าจากข้อมูลที่มีอยู่ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของอี เอ็มซี คลิกไปที่ www.thailand.emc.com