Type Here to Get Search Results !

ประสบการณ์วิ่ง 21 โล (Half Marathon) ครั้งที่ 2 ในงาน Garmin Bluerun 2017

0


  งานนี้อยากบอกว่าเป็นงานวิ่ง 21 โลครั้งที่ 2 ของผม ปกติจะไม่อยากวิ่งระยะนี้เพราะว่าเกินจากที่ตั้งใจไว้แล้ว เพราะเอาแค่สุขภาพ วิ่งเกิน 30 นาทีต่อครั้งก็ถือว่าพอแล้ว ไปๆ มาๆ 1 ชั่วโมงก็ถือว่านานละ ต้องเอาเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง ไปๆ มาๆ ก็มาตกที่ 21 โลได้ไงก็ไม่รู้ คือคนวิ่งงานต่างๆ จะรู้ว่า ต้องเก็บภาพตัวเองเอาไว้ และผมก็เช่นกัน เอามาเก็บไว้ใน blog ของตัวเองหน่อยก็แล้วกัน ในงาน Garmin Bluerun 2017 รีวิวเก็บตกงาน และภาพถ่ายตัวเอง

มาเก็บความรู้สึกเอาไว้ ก่อนจะเลือนหายไป กับการวิ่งครั้งที่ 2 ในระยะ 21 กิโล โดยงานแรกเป็นงาน WeRun เมื่อต้นปี ซึ่งก็ยังไม่ได้ตามที่ตั้งใจไว้ ไม่ได้ซ้อม และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่ได้ซ้อม เพราะอะไร หวัดเล่นงานตั้งแต่ช่วงสองอาทิตย์ก่อนงาน และโชคดีที่หายทันก่อนหน้าประมาณ 3-5 วัน วันพฤหัสยังไปหาหมออยู่เลย เช็คอาการว่าเป็นไง ถามหมอแล้ว คุณหมอบอกว่าอย่าเพิ่งหักโหม แต่ก็จัดไปซะ ฮาา

อีกอันนึงคือความตั้งใจดั้งเดิม จะวิ่งก็ต้องไม่หยุด หรือเดิน ไม่ว่าจะระยะไหนก็ตาม จะไม่ไหวก็ต้องวิ่งช้าๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งทำได้ในระยะ 10 กิโล อาจจะมีตอนหยุดรับน้ำ และหยุดไฟแดง แต่พอมาระยะ 21 กิโล คือแบบว่า ตั้งแต่ประสบการณ์ครั้งแรก เข่าแทบพัง เนื่องจากสติหลุด ร่างกายคอนโทรลได้ไม่เหมือนในการวิ่งกิโลแรกๆ ทำให้ปล่อยการลงน้ำหนักเยอะไป กะว่างานนี้เอาใหม่ ต้องทำได้สิน่า แต่ก็รู้ข้อจำกัดตัวเอง เพราะเพิ่งหายไข้และอ่อนซ้อมมากในช่วงหลัง

รู้ตัวก่อนวันวิ่ง ก็พักผ่อน นอนเร็วกว่าปกติมาก ร่างกายรู้สึกว่ายังเพลียๆ อยู่ แต่ก็พยายามอัดกล้วน กินอาหารที่มีประโยชน์ และคอนเซ็ปท์ก็คือต้องถ่ายอุปกรณ์พร้อม BIB ซึ่งปกติผมก็ไม่เคยถ่ายหรอก เห็นคนอื่นเค้าถ่ายกันก็เอามั่งสิ


อุปกรณ์ที่ใส่
- Garmin Forerunner 235
- Fitbit alta HR
- Mi Band 2
- Y2 Plus
- Li-ning UnitbowII Smartshoes (Xiaomi)
- Jabra Elite Sport
- Samsung Galaxy S8+


เช้าตื่นตีสาม เพื่อเตรียมตัว อาบน้ำ เข้าห้องน้ำซะให้เรียบร้อย อ้อ อีกความตั้งใจนึงคือ ทุกๆ ก่อนเข้าเส้นชัยประมาณ 100 เมตร หากทำได้จงสปีดให้เต็มกำลัง เหลือเท่าไหร่อัดให้หมด เหมือน 10 กิโลที่ปกติยังพออัดไหวในช่วงสุดท้าย แต่งานนี้จะเป็นไงนะ?



ช่วงเช้า เริ่ม start 4.30 ไปถึงประมาณ 4.10 จอดรถตรงข้างสถานีรถไฟฟ้าพอดี ปกติงานพวกนี้ก็ต้องหาจอดเอาตามข้างถนน แต่จริงๆ งานจัดที่ EZ Park ศูนย์ประชุม แต่รถติดและเยอะมาก ก็ข้างทางสะดวกสุด งานนี้ขอจบก็พอ ด้วยอ่อนซ้อมมากๆ พอถึงเวลาปล่อยตัวก็ วางแผนว่าจะวิ่งที่ประมาณ pace เฉลี่ยสักไม่เกิน 8 ซึ่งก็ประมาณนั้น อยู่ที่ประมาณ 7.xx ได้ (ในช่วงแรก) วิ่งไปเรื่อยๆ คนก็เยอะพอสมควร ขนาด 21 กิโลคนยังคงเยอะจริงจัง


ระหว่างวิ่งก็มีหยุดกินน้ำตลอดที่มีตั้งโต๊ะ ประมาณ 2 กิโลครั้ง พยายามจิบน้ำ และราดตัวทำให้หัวและตัวหายร้อน ก่อนวิ่งต่อก็อมน้ำกลั้วปากไว้สักผักแล้วบ้วนทิ้ง กันน้ำลายเหนียว แต่งาน Garmin Bluerun 2017 เรื่องน้ำนี่ไม่ขาดเลยจริงๆ มีตลอดทางจนจบ 21 โล ไม่รู้สึกกระหายน้ำเลย แต่ประเด็นเดิมๆ ที่เจอก็คือ แก้วเกลื่อนถนน ทำใจจริงๆ


   การวิ่ง 21 โลของผม คือปักธงเลย เอาชนะทีละสเต็ป คือตั้งเป้าไว้ก่อน 1/3 หรือก็คือ 7 โล แรก ต้องรักษา Heart Rate ให้ได้ ไม่เกิน 150 แต่ก็อยู่ที่ระดับ 15x มาตลอด ก็ยังโอเค สเต็ปท์ต่อไปคือ เลี้ยง Heart Rate ให้ได้ 15x จนถึงโลที่ 10 ให้ได้ และเช็คร่างกายอยู่ตลอด คือขาไหวไหม หัวใจไหวไหม เช็คอย่างนี้เป็นระยะๆ พอถึง 10 โล Heart Rate ก็อยู่ที่ 150 ปลายๆ แล้ว ส่วน pace ก็ประมาณ 7 ต้นๆ บ้าง คือต้องบอกว่าดีเลยทีเดียว ในระดับที่ไม่ได้ฟิตซ้อม (เทียบกับก่อนหน้านี้ของตัวเอง) พอถึงโลที่ 12-13 จากที่เป็นห่วงว่า Heart Rate จะพุ่ง แต่ไม่กลายเป็นว่ากล้ามเนื้อขา เริ่มมีอาการ แต่ไม่มาก รู้สึกถึงความล้าที่ร่างกายบอก จนโลที่ 15 ขาส่วนต้นก็เริ่มรู้สึกว่าเส้นหรือกล้ามเนื้อนี่ล่ะมันไม่เชิงปวด แต่แบบอารมณ์กล้ามเนื้อคงใช้เริ่มเยอะ ลงน้ำหนักเท้าเริ่มเยอะขึ้น อาการเหนื่อยเริ่มมา ระหว่างกินน้ำในช่วงหลัง ก็มีหยุดเดิน และหยุดพักดื่มน้ำสองแก้วจนหมด แล้วค่อยวิ่งต่อ ถือว่าเป็นการพักสักแป๊ป จาก 21 โลคราวที่แล้วก็ทำให้รู้ว่า เราหยุดเดินบ้างก็ได้น่า จึงทำให้งานนี้มาเดินตอนระหว่างรับน้ำในช่วงหลังตลอด และเดินนานขึ้นเรื่อยๆ


และแล้วปัญหา เกิดตั้งแต่โลที่ 17 กลางๆ วิ่งมาแต่ละระยะเช็คอาการตลอด แต่พอมาโลที่ 17 ความรู้สึกของตะคริวเริ่มมา มันแปร๊ปๆ แต่ยังไม่ได้ตะคริวรับประทานนะ ซึ่งก็อาศัยลดความเร็วลง ในระหว่างที่วิ่งอยู่ในกิโลที่ 10 กว่าขึ้นไป ก็เห็นบางคนแซงไปเหมือนกัน บางทีก็มีเร่งบ้างบางจังหวะ เพื่อแซงคนอื่นบ้างก็มี ทำให้ตะคริวเริ่มมา ก็ยังพอคอนโทรลได้ เรื่อยๆ จนมากิโลที่ 18 กว่าๆ ก็รู้สึกว่า เริ่มไม่ไหว เหมือนจะถอดใจ ตะคริวถามหาเป็นระยะ ก็ตัดสินใจเริ่มเดิน


ก็พอช่วยผ่อนได้ ก็กลายเป็นเดินสลับวิ่ง ซึ่ง pace นี่ทะลุไปที่ 1x แล้ว คือไม่หวังแล้ว ลึกๆ อยากจบที่ 2.30 ชั่วโมง แต่ดูแล้วยังห่างไกล อีกสองสามกิโลก็ถึงเส้นชัยแล้ว แต่ขาดันไม่ไหว ก็มีบางจังหวะกัดฟันวิ่ง ปั่นรอบขาขึ้น จนกิโลที่ 19-20 มีทางขึ้นสะพานตอนจบด้วย ก็พยายามวิ่ง แต่วิ่งอืดมาก และบางครั้งก็เดิน ตอนมีกล้องก็พยายามจะวิ่งนะ แต่ะตะคริวถามหาตลอด แต่โชคยังดียังได้จนจบถึงเส้นชัย ตะคริวไม่กิน จนไปที่รถโน่นแหล่ะ จะถอดรองเท้า กินสิครับ น่องซ้าย ปวดเป็นวันเลย



หลังเข้าเส้นชัย มารีวิวเรื่องเส้นทางและงานนี้หน่อยดีกว่า เส้นทางการวิ่งถือว่าโอเค สะพานแค่ช่วงต้นและปลาย ไม่มีสะพานข้ามแยกต่างๆ เพราะเคยเจอว่าสะพานโยกจนน่ากลัวเลย เมื่องานวันแม่ เข็ด ดีึ้นแค่สะพานข้ามแยกช่วงคลองเตยแค่นั้น กันรถก็ดีนะ มีเจ้าหน้าที่ตลอดทาง แตงโม น้ำเกลือแร่ระหว่างทางก็มีให้ด้วย  ตอนเช้าห้องน้นี่คนต่อคิวนานมาก น่าจะมีเพิ่มสักหน่อย ตอนเข้าเส้นชัย แถวอาหารยาวแบบว่ามากมาย น่าจะมีซุ้มอาหารแยกหรือจัดการให้ดีกว่านี้หน่อย คืออดกินล่ะ สั้นๆ รีบไปทำธุระต่อด้วย รอไม่ไหว อ้อ งานนี้มีเสื้อ Finisher ด้วย


ที่มางานนี้ก็เพราะอยากได้เสื้อเลย เป็นเสื้อ Finisher ตัวแรกในชีวิตที่ได้มา เหรียญก็โอเคนะ แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คือเอานาฬิกามาทำเหรียญ ก็ดูแปลกดี แต่ส่วนตัวไม่ค่อยโดน แต่วัสดุอะไรก็โอเคนะ ทั้งสายคล้องคอและตัวเหรียญเอง หลักๆ ก็คือประมาณนี้ ไม่ได้อยู่จนจบงาน รีบกลับ แต่คนเยอะดีนะ



ได้ความสนุก และเจ็บใจกลับบ้าน เพราะอ่อนซ้อม ตะคริวขึ้นเป็นระยะ กลายเป็นว่าต้องมี 21 โลครั้งต่อไป ไม่รู้งานไหนล่ะ แต่ต้องทำตามความตั้งใจให้ได้ วิ่งตลอด และจบที่ 2.30 และสปีดเข้าเส้นชัยให้ได้ เลยมาเก็บความรู้สึกเอาไว้ซะหน่อย  หลังงานก็เก็บภาพตามเพจภาพถ่ายวิ่งต่างๆ



ปิดท้ายด้วย สถิติ จากแอพ Garmin Mobile Connect
งานนี้เฉลี่ยดีกว่าเดิม

ส่วน pace ส่วนตัวผมถือว่าโอเคแล้ว แต่อย่างที่บอกว่ายังไม่ได้ตามเป้าหมาย

pace เฉลี่ย ช่วงหลังๆ คือเดินบ้างวิ่งบ้าง ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

มาดูกราฟก็จะรู้เลยว่าเป็นยังไง อืมๆ

TE แดงเถือก พักยาวๆ Cadence ก็วิ่งๆ หยุดๆ ฮา

รักษาโซน 4 ได้มากกว่า โซน 5 โดยของผมตั้งโซน 5 ไว้ที่ 165 นะ


1. ตนมือสั่น
2. Oc FoTo
3. Papa colorful
4. Shutter Running
5. Sangpab Running
6. วิ่งเพื่อรูป
7. Chill chill running
8. Wing Chill Chill
9. S focus
10. RecRace
11. IndyRun
12. Runlunla
13. Too Fast Too Slow
14. Ksport running
15. ไอแมนรูปวิ่ง
16. Naden 81
17. Heart Attack Studio
18. ตื่นไม่ทันชัตเตอร์

ขอบคุณทุกเพจเลยคร้าบ

เช็คผลได้ที่นี่ 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น

buttons=(Accept !) days=(20)

Our website uses cookies to enhance your experience. Learn More
Accept !