เมื่อปีที่แล้ว Honor ได้เปิดตัว X9b และตอนนี้บริษัทกำลังแนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นพัฒนาต่อยอด ที่มีชื่อว่า Honor X9c โดยถูกโฆษณาว่าเป็นโทรศัพท์ที่แข็งแรงที่สุดของ Honor จนถึงปัจจุบัน พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ารุ่น b (แม้ว่าบางส่วนจะยังคงเหมือนเดิม)
Honor X9c X9c รับรองการตกกระแทกที่ความสูง 2 เมตร (6.6 ฟุต) และเป็นอันดับหนึ่งในด้านความน่าเชื่อถือโดยรวมจาก SGS ภายนอกทนรอยขีดข่วนและผ่านการทดสอบด้วยการขัดด้วยฝอยเหล็กถึง 3,000 ครั้ง โทรศัพท์สามารถทำงานในอุณหภูมิสุดขั้วตั้งแต่ -30°C ถึง 55°C (-22°F ถึง 131°F)
และได้รับมาตรฐาน IP65M โดยตัว "M" หมายถึงการป้องกันน้ำฉีดแบบ 360° แม้ว่า Honor จะมีรุ่นที่ได้มาตรฐาน IP69 แต่เป็นการรวมคุณสมบัติทั้งหมดนี้ที่ทำให้ X9c เป็นรุ่นที่แข็งแรงที่สุด
Honor X9c คือโทรศัพท์ที่แข็งแรงที่สุดของบริษัทจนถึงปัจจุบัน อีกสิ่งที่เราพูดถึงคือแบตเตอรี่ - ตอนนี้มีความจุ 6,600mAh เพิ่มขึ้น 800mAh จากแบตเตอรี่ขนาด 5,800mAh ของ X9b ที่น่าประทับใจอยู่แล้ว การชาร์จก็ได้รับการอัพเกรดเช่นกัน เป็น 66W (จากเดิม 35W) จะเล่นวิดีโอออนไลน์ได้เกือบ 26 ชั่วโมง
คุณสมบัติที่เหลือของ Honor X9c ค่อนข้างคล้ายกับ X9b มีจอแสดงผล OLED แบบโค้งขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1,224 x 2,700 พิกเซล หน้าจอแสดงสี 10-bit (8+2 bit) พร้อมความสว่างที่สูงขึ้นกว่าเดิม - สูงถึง 4,000 nits ควบคุมด้วย PWM dimming ความถี่ 3,840Hz
ด้านหลังมีกล้อง 108MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาด 1/1.67 นิ้ว มีพิกเซลขนาด 0.64µm ซึ่งสามารถรวมกัน 9 ต่อ 1 เป็นพิกเซลขนาด 1.92µm หรือใช้สำหรับซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพ 3 เท่าในเซ็นเซอร์ กล้องนี้มีเลนส์ f/1.75 พร้อม OIS และรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K กล้องอีกตัวด้านหลังเป็นกล้องมุมกว้าง 5MP (f/2.2) ส่วนด้านหน้ามีกล้องเซลฟี่ 16MP (f/2.45) บันทึกวิดีโอได้ 1080p ต่างจากรุ่นก่อนที่กล้องนี้อยู่ในช่องเว้ารูปแคปซูล
และเป็นโทรศัพท์ 5G ที่ขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 6 Gen 1 เช่นเดียวกับ X9b มี 3 รุ่นย่อย : 8/256GB, 12/256GB และ 12/512GB รันระบบ MagicOS 8.0 (Android 14)
การเชื่อมต่อเพิ่มเติมรวมถึง Wi-Fi 5 (ac), Bluetooth 5.1 และ NFC ระบบระบุตำแหน่งรองรับ GPS, Galileo, GLONASS และ BeiDou ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แต่มีลำโพงสเตอริโอพร้อมการเพิ่มเสียง 300%
Honor X9c มีให้เลือก 3 สี: Titanium Purple, Jade Cyan และ Titanium Black Honor X9c วางจำหน่ายแล้วในหลายภูมิภาค เราพบว่าในมาเลเซีย รุ่น 12/256GB ราคา 1,500 ริงกิต (ประมาณ 12,075 บาท) และรุ่น 12/512GB ราคา 1,700 ริงกิต ในสิงคโปร์เปิดให้พรีออเดอร์ (จัดส่งใน 7 วัน) ราคา 450 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 11,900 บาท) สำหรับรุ่น 12/256GB
รอการเปิดตัวในไทยคาดว่าอีกไม่นานนี้
ที่มา gsmarena