บอกเล่า เก้าสิบ วันนี้ ขอจับเอา Redmi Note 14 Pro+ 5G ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ มาสักหน่อย จริงๆ พี่น้องตระกูลนี้มีหลายรุ่น ตามสเปคและราคา แต่ต้องบอกว่ามาในราคาระดับกลาง ซึ่งตัวรุ่น Redmi Note 14 Pro+ 5G เป็นตัวที่แพงที่สุด มีฟีเจอร์มากสุด ก็ว่าได้ เอามาจับเล่าสู่กันฟัง
เป็นอีกซีรีส์ที่จัดเต็ม ออกอัปเดตทุกปี ปีนี้ก็ออกมาทั้งหมด 4 รุ่น มีการแยกราคาตามความจุและขนาดแรมพร้อมรุ่นย่อย ตามนี้เลยครับ Redmi Note 14 Pro+ 5G 12/512GB : 14,990 บาท | Redmi Note 14 Pro 5G 12/256GB : 11,990 บาท | Redmi Note 14 5G 12/512GB : 9,999 บาท | Redmi Note 14 5G 8/256GB 5,999 บาท ห ซึ่งอยู่ที่ตัวเลือก และวันนี้ขอเอารุ่น Redmi Note 14 Pro+ 5G จับมาเล่าให้ฟังกัน สำหรับรุ่นนี้รองรับ HyperCharge 120 W พร้อมแถม adapter มาในกล่องพร้อมใช้
สเปคเบื้องต้นของ Redmi Note 14 Pro+ 5G
ชิปเซ็ต: Qualcomm® Snapdragon® 7s Gen 3 GPU: Andreno
หน่วยความจำ: 12GB (LPDDR4X) + 512GB (UFS2.2)
หน้าจอ: 6.67" 1.5K (2712x1220 pixels) Frame Rate 120Hz
ขนาด: 162.53x74.67x8.75 มม. น้ำหนัก 210.14 กรัม
แบตเตอรี่ 5,110 mAh HyperCharge 120W
กล้องถ่ายภาพ: กล้องหน้า 20MP (f/2.2.) | กล้องหลัง 200 MP (f/1.65,OIS) + Ultra wide 8 MP(f/2.2) + Macro 2MP (f/2.4,OIS)
การเชื่อมต่อ: Wi-Fi: Wi-Fi 6/6E/Wi-Fi 5/Wi-Fi 4/802.11a/b/g, Bluetooth 5.4 | USB Type-C
ระบบปฏิบัติการ: Xiaomi HyperOS
อินเทอร์เน็ต: 2G / 3G / 4G /5G 5G NR
ซิม: Nano SIM + Nano SIM หรือ Nano SIM + eSIM
อื่นๆ: IP68 | ลำโพงคู่
AI : Circle to Search with Google, Google Gemini, ล่ามแปลภาษา AI, บันทึกย่อ AI, ตัวบันทึก AI, ซับไตเติล AI, ภาพยนตร์ AI, การตัดต่อภาพ AI
ราคา : Redmi Note 14 Pro+ 5G 12/512GB : 14,990 บาท | Redmi Note 14 Pro 5G 12/256GB : 11,990 บาท | Redmi Note 14 5G 12/512GB : 9,999 บาท | Redmi Note 14 5G 8/256GB : 7,999 บาท | Redmi Note 14 5G 8/256GB : 5,999 บาท หาซื้อออนไลน์ได้ => ที่ลิงค์นี้
สเปคเต็มๆ => ได้ที่ Redmi Website
การออกแบบของ Redmi Note 14 Pro+ 5G
สำหรับซีรีส์ Redmi Note อัปเดตกันทุกปี และปีนี้ก็พัฒนามากขึ้น ด้วยดีไซน์ที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนเรือธง โดยหน้าจอเป็นจอขอบโค้ง ที่เหมือนหลายปีก่อนอยู่บนเรือธงซะส่วนใหญ่ มาวันนี้ลงมารุ่นระดับกลาง ก็ทำให้ดูพรีเมี่ยมขึ้นนั่นเอง ส่วนตัวฐานกล้องด้านหลังเครื่อง ก็หนาพอสมควร มาพร้อมกับกล้อง
ส่วนหน้าจอจัดเต็มด้วยความละเอียด 1.5K พร้อมเทคโนโลยีต่างๆ ครบ ความไวในการตอบสนองหน้าจอสัมผล 480 Hz ความสว่าง 3000 nits พร้อมกับการปรับความสว่างละเอียด และรองรับ HDR10+ เรียกว่าก็จัดสเปคหน้าจอมาให้เต็มพอตัวเลยทีเดียวสำหรับรุ่นนี้ สีสันและการตอบสนองดีเลยล่ะ
ส่วนสเปคอื่น ก็ยังคงเป็นชิปเซ็ตระดับกลาง CPU จัด Snapdragon 7s Gen3 ใหม่ ก็แรงพอประมาณพร้อมกับเล่นเกมได้และแบตอึด และอัด RAM มาให้ 12GB คือใช้งานลื่นสบายเลย และแน่นอนความจุเหลือๆ 512GB และชาร์จแบตไวด้วย HyperCharge 120W พร้อมแถมที่ชาร์จมาในกล่อง
มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 เรียกว่ารุ่นระดับราคาหมื่นกลางก็จัดเต็มเรื่องความทนทานการใช้งานมาได้ดีเลยล่ะ ในราคาระดับนี้ คือนำไปใช้งานกันได้ทุกสภาพเลย
ด้านส่วนเสริมเทรนด์ AI
สำหรับ AI เรียกว่ามีการใส่การใช้งานมา ไม่แพ้ค่ายอื่นหรือค่ายตัวเองในรุ่นสูงกว่านี้ จุดเด่นก็คงเป็นลบผู้คน หรือวัตถุ ต่างๆ เรียกว่าทำได้เนียนพอตัวเลยทีเดียว แถมยังสามารถขยายภาพได้อีกต่างหาก ทำให้ฉากที่ได้กว้างขึ้น แต่แน่นอนว่า ภาพบางจังหวะ ก็อาจจะไม่ได้ขยายเพิ่มเติมได้จนเนียน กับอีกข้อสังเกตุก็คือ การประมวลผลก็ใช้เวลารอกันพอสมควร คือไม่ใช้กดปรับภาพปุ๊ปมาปั๊ป ต้องรอทำงานสักแป๊ปนึงเหมือนกัน แน่นอนว่ายุคนี้เทรนด์ AI มา การใช้งานก็ตอบโจทย์ เอา AI มาช่วยให้สะดวกขึ้น
สำหรับ AI เรียกว่ามีการใส่การใช้งานมา ไม่แพ้ค่ายอื่นหรือค่ายตัวเองในรุ่นสูงกว่านี้ จุดเด่นก็คงเป็นลบผู้คน หรือวัตถุ ต่างๆ เรียกว่าทำได้เนียนพอตัวเลยทีเดียว แถมยังสามารถขยายภาพได้อีกต่างหาก ทำให้ฉากที่ได้กว้างขึ้น แต่แน่นอนว่า ภาพบางจังหวะ ก็อาจจะไม่ได้ขยายเพิ่มเติมได้จนเนียน กับอีกข้อสังเกตุก็คือ การประมวลผลก็ใช้เวลารอกันพอสมควร คือไม่ใช้กดปรับภาพปุ๊ปมาปั๊ป ต้องรอทำงานสักแป๊ปนึงเหมือนกัน แน่นอนว่ายุคนี้เทรนด์ AI มา การใช้งานก็ตอบโจทย์ เอา AI มาช่วยให้สะดวกขึ้น
ด้านการถ่ายภาพและกล้อง
สำหรับกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เป็นความละเอียดสูงสุดๆ ที่อยู่ในรุ่นราคากลาง พร้อมทั้งชิ้นเลนส์ 7 ชิ้น ซึ่งจากที่ใช้งานแล้ว ในรายละเอียดภาพต่างๆ ก็ถ่ายออกมาได้แสงสีสวยงาม พอตัวเลยล่ะ ภาพกว้างกับมาโคร ก็มาตรฐานสำหรับรุ่นกลางแบบนี้ ส่วนวีดีโอ มีโหมดที่ใช้งานมีแบบถ่ายวีดีโอคู่มาให้ด้วย กล้องในเวลากลางคืนอาจจะต้องโฟกัส รอโปรเซสในบางจังหวะเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไร ในราคาระดับนี้นะครับ ถ้าเคยใช้บรรดาเรือธงมาก่อนก็จะรู้สึกดีเลย์หน่อยๆ
ภาพถ่ายตัวอย่าง
สรุปภาพรวม Redmi Note 14 Pro+ 5G
แน่นอนว่าทางเลือกสำหรับรุ่นราคาหมื่นกลาง ผมว่า Redmi Note 14 Pro+ 5G ตอบโจทย์ทุการใช้งาน และรุ่นนี้เน้นกล้องที่ 200 ล้านพิกเซล ที่ซูม 4 เท่า เรียกได้ว่าได้คุณภาพในราคาหมื่นกลางอย่างแน่นอน สำหรับรุ่นที่เพิ่งออกมาใหม่ในปีนี้เทรนด์เรื่องอึด ถึก ทน เรียกว่าเสริมความคงทนในการใช้งานให้เรามั่นใจขึ้นไปอีก และเป็นเทรนด์ของ Smartphone ในยุคปัจจุบัน ที่ Xiaomi (Redmi) ที่ใช้ความสำคัญใส่มาให้ด้วย ที่สำคัญคือยังแถมที่ชาร์จคุณภาพระดับ 120W มาให้ด้วย นับว่ายังใจดีอยู่ แน่นอนว่าเป็นทางเลือกสำหรับใครที่มองหาเครื่องรุ่นใหม่สำหรับต้นปีแบบนี้
ขอบคุณ Xiaomi Thailand ที่สนับสนุนอุปกรณ์ทดสอลบ