บอกเล่า เก้าสิบ - HONOR 400 Pro

 

     หลังจากรุ่น HONOR 400 วันนี้จับเอาอีกหนึ่งงรุ่น HONOR 400 Pro เรียกว่าเป็นน้องๆ ไฮเอนด์ พร้อมชิปเซ็ตสุดแรง Snapdragon 8Gen3 รุ่นราคาระดับกลาง มาบอกเล่า เก้าสิบกันหน่อย เรียกว่าเป็นรุ่นที่มีราคาไม่แรง น่าคบหา และอัด AI มาให้ใช้งานกันมากมายกว่า 40 แบบ ซึ่งสนุกไปด้วยการสร้างภาพให้มีชีวิตด้วยการทำเป็นวีดีโอผ่าน AI ให้เราได้ความประทับใจในอีกมิตินึง

📌 สเปคเบื้องต้นของ HONOR 400 Pro

ขนาดหน้าจอ: 6.7″ Four‑curved AMOLED สูงสุด 5000 nit ความละเอียด 2800×1280, รีเฟรชเรต 120 Hz, DCI‑P3, 3840 Hz PWM ปรับลดแสงกระพริบ 

ขนาดและน้ำหนัก: 1ุ60.8 x 76.1 x 8.1 มม. | 205 กรัม

ชิปประมวลผล: Snapdragon 8 Gen 3   

หน่วยความจำ: 12 GB +  512 GB

แบตเตอรี่: 6000 mAh Silicon‑carbon, ชาร์จสาย 100 W SuperCharge (51 % ภายใน 15 นาที) + ชาร์จไร้สาย 50 W SuperCharge (33 % ภายใน 15 นาที)

การกันน้ำ–ฝุ่น: IP69 / IP68 และได้การรับรอง SGS 5‑ดาวในการกันตก–แรงกด–กันฝุ่น/น้ำ 

กล้องหลัง: 200 MP  AI Advance (f1/1.9″, OIS) 
- กล้อง Telephoto 50MP (f/2.4,OIS)
- กล้อง Ultra Wide 12MP (f/2.2)  

กล้องหน้า: 50 MP (f/2.0)  Portrait AI, AI Skin, AI enhance, รองรับ Selfies แม้แสงน้อย 

ระบบปฏิบัติการ: MagicOS 9.0 บน Android 15 พร้อมใช้ Google Lens, Gemini Live, AI writing tools และ Magic Portal

การเชื่อมต่อ: Wi‑Fi 7 | Bluetooth 5.4 | USB‑C

เครือข่าย: รองรับ 5G

ซิม: nano + nano / eSIM

ราคา (ไทย): ประมาณ 19,900 บาท

ดูสเปคเต็มๆ ได้ที่ HONOR ประเทศไทย – HONOR 400 Pro

      HONOR 400 Pro เป็นรุ่นอัปเกรดของ HONOR 400 ที่มีความแรงมากกว่า คุ้มค่ากว่า สำหรับรุ่นนี้  ฐานกล้องออกแบบมาเป็นลักษณะคางหมูโค้งมน ซึ่งมีเลนส์กล้องอยู่ 3 เลนส์ ครบช่วงเลนส์สำหรับใช้งานบน Smartphone ขอบหน้าจอโค้งมนให้อารมณ์เหมือนกับเรือธง ดูพรีเมี่ยม สวยงาม  มีสีให้เลือก 2 สี Lunar Grey,Midnight Black ส่วนตัวชอบ Lunar Grey สวยงามสุด

      หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว การแสดงผลจัดเต็ม ขอบโค้งมนในยุคนี้โดยเฉพาะของ HONOR ออกแบบมาดี ไม่มีผลต่อการแสดงผลและการพิมพ์ป้อนข้อมูล ขนาดมาตรฐาน เหมือนกับ HONOR 400 ที่เอามาบอกเล่าก่อนหน้านี้ เรื่องเทคโนโลยีถนอมสายตาอย่าง Honor AI Eye Comfort Display ที่มี AI  เข้ามาช่วย พร้อม Natural Light Advance AI Super-Dynamic และ Advance AI Vivid ช่วยการแสดงสีสันและภาพได้คมชัดสดใส และยังใส่เทคโนโลยีบรรเทาอาการเมารถ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในการใช้งานได้จริง เรียกว่ HONOR ให้ความสำคัญในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สำหรับกลุ่มคนที่มีปัญหาในใช้งานเพิ่มเติมด้วยล่ะครับ

     ส่วนสเปคคืออยู่ในระดับน้องๆ เรือธง โดยได้ CPU Snapdragon 8 Gen3 จัดมา ทำให้การใช้งานโดยรวมทำงานได้รวดเร็ว รวมถึงการเล่นเกมที่ใช้กราฟิคระดับสูงได้ดี แต่ก็มีความร้อนเพิ่มขึ้นตามระยะเวาการใช้งาน แน่นอนว่ามาพร้อมกับ Magic OS9 อัปเดตล่าสุดบนพื้นฐานของ Android 15 ส่วนแบตเตอรี่ ที่เรียกว่าให้มามาตรฐานยุคนี้ 6000 mAh พร้อมชาร์จไว HONOR HyperCharge 100W  พร้อมชาร์จไร้สาย 50W SuperCharge พร้อมใช้งานได้ทั้งวัน

ด้าน AI กว่า 40 รูปแบบ

 

สำหรับ AI ของ HONOR ยังคงจัดเต็ม พร้อมจุดเด่นของซีรีส์นี้ กว่า 40 รูปแบบ เท่าที่ AI จะมีได้ใน Smartphone ปัจจุบัน เรียกว่าใส่มาอยู่ในแทบทุกการใช้งาน ที่สำคัญคงเป็นเรื่องของ แปลงภาพนิ่งที่เราถ่ายให้เป็นวีดีโอ อาจจะมีข้อจำกัดจำนวนที่แปลงแต่ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่หาจากค่ายอื่นไม่ได้ในตอนนี้ ซึ่งอาจจะใช้เวลาในการครีเอทนิดนึง กับต้องอาศัยการเชื่อมต่อเน็ตด้วย และยังมี AI Deepfake Detection ก็ยังจัดให้ครบ จ่ายราคาไม่แรงแต่ได้ AI จัดเต็มสำหรับ HONOR 400 ซีรีส์นี้ ส่วนของการปรับแต่งภาพต่างๆ ก็ยังอยู่ครบถ้วน ก็ยังเน้นว่าการลบภาพคนหรือวัตถุ ก็ยังฉลาดและเนียนใช้ได้เช่นเคย

ด้านกล้องถ่ายภาพ

    

    สำหรับกล้องก็จัดมาเต็ม มาพร้อมกับความ Advance AI เพิ่มเติมขึ้นมาเช่น Advance AI Zoom , Advance AI Portrait Snap ก็ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่ายขึ้นอีก  ความละเอียดก็ต้องยกให้ว่าให้มามากมายถึง 200 ล้านพิกเซล และมีกล้องอีก 2 ตัว ครบทั้งมุมกว้างและเทเล เรียกว่าจัดได้ครบทุกมิติการถ่ายภาพ และกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล ก็ตอบโจทย์เรื่องเซลฟี่

ตัวอย่างภาพถ่าย

ตัวอย่างภาพถ่าย Honor 400

รูปที่ 1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่ 4

รูปที่ 5

รูปที่ 6

รูปที่ 7

รูปที่ 8

รูปที่ 9

รูปที่ 10

📸 อัลบั้มรูปภาพ Honor 400 | รวม 10 ภาพ

×

สรุปการใช้งาน HONOR 400 Pro

     สำหรับรุ่นนี้ คือเป็นรุ่นี่คุ้มคามากๆ รุ่นนึง ได้สเปคแบบจัดเต็มอารมณ์เรือธงหย่อนไปนิดๆ และภาพรวมคือดีเลย เพราะสเปคดีทำให้การใช้งานโดยภาพรวมคือลื่น น่าพอใจมาก เล่นเกมสนุก ระบบเสียงดังมากโดยเฉพาะระบบที่เพิ่มความดังของเสียงจากเดิมเป็น 200% โดยรวมแล้วคิดว่าราคาคุ้มค่าสุดในช่วงราคาไม่เกิน 20,000 บาทแล้วล่ะ

ขอบคุณ Honor Thailand ที่สนับสนุนเครื่องทดสอบ